
พายุฤดูร้อนถล่มลงในพื้นที่ ต.แคน อ.สนม. จ.สุรินทร์ จำนวนหลายหมู่บ้านเสียหายไปหลายหลัง ขณะที่ทางเทศบาลตำบลแคน เร่งออกสำรวจในพื้นที่และสำรวจความเสียหาย นอกจากนี้พบบ้านคุณยายวัย 72 ปี ขนข้าวออกจากยุ้งฉางไป จำนวน 30กระสอบนำไปขายซื้อตะปูมาซ่อมแซมบ้าน




วันที่ 7 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนพร้อมกับตรวจสอบความเสียหายที่เกิดจากพายุฤดูร้อนที่ถล่มลงมาพัดพาเอาสังกะสี ตลอดจนบ้านเรือน ยุ้งฉางข้าวของชาวบ้านได้รับความเสียหาย จำนวน 4 หมู่บ้าน ประกอบไปด้วย หมู่.2, หมู่ 4, หมู่ 11, และหมู่ 12 โดยภายในเขตพื้นที่ตำบลเทศบาลตำบลแคน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ หนึ่งในจำนวน 4 หมู่ ที่ได้รับความเดือดร้อนที่สุดคือ
คุณยายใส หวังสุข อายุ 72 ปี บ้านพักอาศัยเลขที่ 47 ม.11 ต.แคน อ.สนม จ.สุรินทร์ ซึ่งหลังคายุ้งฉางข้าวถูกพายุถล่มลงมา และพัดพาเอาสังกะสีปลิวไปกองอยู่ข้างนอกบ้าน และยังไม่มีเงินนำไปซื้อตะปูมาซ่อมแซมบ้าน จึงได้นำข้าวที่อยู่ภายในยุ้งฉางนำไปขายต่อเพื่อนำเงินมาซ่อมหลังคาบ้าน
คุณยายใส หวังสุข กล่าวว่า เมื่อวาน(วันที่ 6 มี.ค.68)ที่ผ่านมา ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 น. เด็กเลิกเรียนได้ยินเสียงลมพัดมาจากทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านและพัดต้นไม้ที่อยู่ตามทุ่งนาล้มระเนระนาด พร้อมทั้งพัดมาเอาสังกะสีของชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านออกไปหลายหลัง และของคุณยายใส หวังสุข ก็ถูกพัดไปเช่นกันโดยสังกะสีตนเองนำมาเก็บกองเอาไว้ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
คุณยายใส หวังสุข ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตนเองอยู่เพียงคนเดียวส่วนตาก็ออกไปอยู่อีกหลัง ซึ่งในวันเวลาเกิดเหตุตนเองเห็นลมพัดมาอย่างแรง จึงรีบวิ่งขึ้นไปหลบอยู่ภายในบ้าน และพอลมสงบลงตนลงมาสำรวจก็พบสิ่งของภายในบ้านปลิวกระจัดกระจายหลังคายุ้งฉางถูกลมพัดไปหมด
ต่อมาในช่วงเช้าวันนี้( 7 มี.ค.68)เห็นเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแคนได้มาจดรายชื่อหลังคาบ้านที่ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย แต่ตนเองทางเทศบาลตำบลแคนไม่ได้มาจดชื่อเพื่อที่จะหาทางช่วยเหลือก็เลยน้อยใจตัวเองที่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มาสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยตนเองได้นำข้าวจากยุ้งฉางจำนวน 30 กระสอบไปขายเพื่อที่จะนำเงินมาซื้อตะปูและสิ่งของซ่อมแซมบ้านโดยที่ไม่อยากจะรอเทศบาลตำบลแคนมาดูแล และคิดว่าตนเองอาจจะไม่ได้เลยก็ได้เพราะเจ้าหน้าที่เขาไม่สนใจ … คุณยายใสกล่าว