
วันที่ 22 เม.ย.2568 ผู้สื่อข่าว จ.นครพนม รายงานว่า รายงานจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม (ปภ.นครพนม) ระบุว่า เมื่อเวลา 15.30-14.00 น.นที่ 21 เม.ย.68 ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ ถล่มในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม และ อ.บ้านแพง ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนใน 2 อำเภอดังกล่าวได้รับความเสียหายจำนวนมาก ที่ อ.ศรีสงคราม น.ส.กรณ์กาญจน์ แก้วดวงดี นายอำเภอศรีสงคราม พร้อมปลัดอำเภอ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบจากวาตภัยครั้งนี้ จากการสำรวจพบว่ามีบ้านเรือนเสียหาย 2 ตำบล ในจำนวน 8 หมู่บ้าน เสียหาย 170 หลังคาเรือน โดยเฉพาะ ที่ ต.นาเดื่อ บ.นาโอเสียหาย มากถึง 28 หลังคาเรือน เสียหายหนักสุด 110 หลังคาเรือน ส่วน ต.บ้านเอื้อง ผลกระทบ 3 หมู่บ้าน 60 หลังคาเรือน







ขณะที่นายสมัคร ศรีษามุข อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน ส.สมัครซุปเปอร์ เปิดร้านขายของชำที่ บ.นาอินทร์ ม.5 ต.นาเดื่อ เล่าเหตุการณ์ว่า ช่วงเย็นวานนี้ขณะตนกำลังนั่งขายของอยู่ภายในร้าย ได้เกิดฝนคะนองและมีลมกระโชกแรง นานราว 10 นาที แรงลงที่กระโชกรุนแรง ได้หอบยกหลังคาปลิวว่อนไปทั้งแผง หลังพายุสงบพบว่าข้าวของเสียหายเปียกน้ำเกือบทั้งร้าน
นอกจากนี้ ยังพบว่าต้นไม้น้อยใหญ่ที่ปลูกไว้ในโรงเรียนบ้านนาอินทร์นาโอนาคอยพัฒนา ต.นาเดื่อ ล้มระเนระนาดจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีต้นค้ออายุ 100 กว่าที่ปลูกไว้ ได้ล้มครืนทับเสาไฟในโรงเรียนดังกล่าวหักโค่นได้รับความเสียหาย 1 ต้น ส่งผลให้กระแสไฟในพื้นที่ดับมืดมิดนานกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งทาง กฟภ.ศรีสงคราม อยู่ระหว่างเร่งแก้ไข เพื่อให้ชาวบ้านและร้านค้าที่ได้รับผลกระทบ ได้มีไฟใช้ได้ทันช่วงเย็นของวันนี้
ส่วนที่ อ.บ้านแพง จากการสำรวจพบว่ามีบ้านเรือนราษฎรเสียหาย 3 ตำบล จำนวน 67 หลังคาเรือน รวมความเสียหายทั้งสิ้นใน 2 อำเภอ 5 ตำบล จำนวน 237 หลังคาเรือน
น.ส.กรณ์กาญจน์ นายอำเภอศรีสงคราม กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนในพื้นที่ เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากลมพายุฝนอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในเรื่องที่พักอาศัย อาหาร และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ
พร้อมทั้งให้มีการสำรวจความเสียหายอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการเยียวยาตามระเบียบของทางราชการต่อไปและยังย้ำเตือนให้ประชาชนได้ติดตามข่าวสารกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ลมพายุฝนที่อาจเกิดขึ้นอีกระลอก และเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
ขณะที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)นครพนม ได้สั่งการให้ทุกอำเภอในจังหวัดเฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้เตรียมความพร้อมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล และกำลังพล เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง หากมีการร้องขอ