
ศึกชิงเก้าอี้เทศบาลตำบลขามเรียงเริ่มดุเดือดซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดดโดยเฉพาะธุรกิจหอพัก ร้านอาหาร ร้านค้า ฯลฯ จะเรียกได้ว่า เป็นเมืองอีกเมืองหนึ่งที่มีแม่น้ำชีไหลผ่านระว่างพื้นที่ อำเภอเมืองมหาสารคามกับพื้นที่ อำเภอกันทรวิชัย ก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามตั้งอยู่พร้อมกับประชาชกรแฝง40,000 คน ทำให้เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านโดดลงสู่สนามการเมืองชิงเก้านายกเทศบาลตำบลขามเรียง อ.กันทรวิชัยหวังจะโค้นแชมป์เก่า นายปราการ เจริญสุรสกล อดีต นายกเทศบาลตำบลขามเรียง 1 สมัย
เทศบาลตำบลขามเรียง ยกฐานะจากองค์การบริหารส่วนตำบลขามเรียง ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฏาคม 2561 มีพื้นที่ 48.5 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 23 หมู่บ้าน มีประชากรราว 11,000 คน และมีประชาชกรแฝง ที่เป็นนิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชนกว่า 40,000 คน ทำให้เทศบาลตำบลขามเรียง เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าจับตามองในการรเลือกตั้งนายกเทศบาลตำบลขามเรียง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ที่จะถึงนี้ ในการเข่งขันชิงตำแหน่งนายกเทศบาลตำบลขามเรียง มีผู้สมัคร 2 เบอร์ คือ เบอร์ 1 นางสาวศิริบังอร นนทภา ทีมพลังใหม่ขามเรียง พร้อมด้วย ผู้สมัคร สท. ทั้ง 2 เขต หมายเลข 1-6 เบอร์ 2 นายปราการ เจริญสุรสกล ทีมพลังรักษ์ขามเรียง และผู้สมัคร สท. ทั้ง 2 เขต หมายเลข 7-12 ทั้ง 2 ทีมมีการเตรียมพร้อมที่จะลงสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์เก่า อย่างนายปราการ เจริญสุรสกล เบอร์ 2 ที่ขอสานต่อผลงานที่ผ่านมา ด้วยการนำทีมพลังรักษ์ขามเรียง เข้ามาบริหารงานต่อยอด กับสิ่งที่เคยทำอยู่เดิม เพื่อพัฒนาคุณชีวิต พี่น้องชาวตำบลขามเรียงให้ดีขึ้น หรือจะเป็นคนใหม่ อย่างนางสาวศิริบังอร นนทภา ซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน บ้านมะกอก หมู่ 19 ที่ลาออกมาเพื่อที่จะอาสามารับใช้ประชาชนชาวตำบลขามเรียงให้พัฒนาก้าวไปข้างหน้า
นางสาวศิริบังอร นนทภา ผู้สมัครนายกเทศบาลตำบลขามเรียง เบอร์ 1 ทีมพลังใหม่ขามเรียง กล่าวว่า ในการลงสนามเลือกตั้งนายกเทศบาลตำบลขามเรียงครั้งนี้ พร้อมอาสามารับใช้ประชาชน พร้อมกับทีมงานพลังใหม่ขามเรียง และทีมบริหารที่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ทั้งในด้านการเมือง อาทิ อดีตผู้ใหญ่ อดีตสมาชิกสภาฯ อดีตข้าราชการ เป็นต้น ทุกคนล้วนแต่มีประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ แตกต่างกันไป โดย ตำบลขามเรียงเป็นตำบลที่กำลังพัฒนา การที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า ก็ต้องมีการบริหารจัดการอย่างเป็นรูปธรรม สู่เมือง Smart City ทีมพลังใหม่ขามเรียงจะบริหารงานควบคู่กันไปทั้งในชุมชนเมือง และชุมชนชนบท ซึ่งชุมชนเมืองจะเป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ครอบคลุม บ้านขามเรียง บ้านดอนนา บ้านโนนแสบง ซึ่งถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีทั้งหอพัก หมู่บ้านจัดสรร มีประชากรแฝงเป็นนิสิต นักศึกษา นอกนั้นจะเป็นหมู่บ้านที่อยู่รอบนอก มีอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ทีมพลังใหม่ขามเรียงก็จะมีนโยบายพัฒนาควบคู่กันไป ในพื้นที่ของชุมชนเมือง ชูนโยบายการสร้างเมืองใหม่ ปรับผังเมืองเพื่อรองรับกับการพัฒนาชุมชนเมือง ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการปรับผังเมือง เขตเทศบาลตำบลขามเรียง มีการเติบโตไปไกลแล้วด้วยประชากรแฝง แต่เมืองไม่สามารถขยายไปได้ เพราะยังติดข้อกฎหมายของผังเมืองรวม ซึ่งหากได้เข้าไปบริหารงาน ก็จะได้มีการทำประชาคมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากมีการปรับผังเมืองได้แล้ว ก็จะสามารถดึงดูดนักลงทุน ให้มาลงทุนในพื้นที่ ให้เมืองเจริญเติบโต สร้างพื้นที่เศรษฐกิจให้มีการเติบโตมากยิ่งขึ้น พัฒนาสู่เมืองใหม่ทั้งในด้านการค้า การลงทุน และบริการสาธารณะอย่างยั่งยืน อีกโยบายหนึ่ง ที่จะทำควบคู่ไปกับชุมชน กับชาวบ้าน คือการทำคลองส่งน้ำ ให้มีระบบส่งน้ำทางการเกษตรมากยิ่งขึ้น ให้มีน้ำเพาะปลูกทำการเกษตร รวมไปถึงนโยบายเร่งด่วน ที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องระบบน้ำเสีย ต.ขามเรียงยังไม่มีบ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งขามเรียงเป็นเมืองที่มีความเจริญเติบโตเร็ว ด้วยประชากรแฝง ที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ ซึ่งต้องเร่งแก้ปัญหา และอีกเรื่องคือเรื่องขยะ ด้วยความที่เป็นเมืองใหญ่ มีหอพักมาก ขยะก็มากตามไปด้วย ก็ต้องเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน นอกจากนี้ในส่วนการการผลักดัน Soft Power ผ่านเทศกาลท้องถิ่น จะพัฒนา “วันไหลขามเรียง” ให้เป็นเทศกาลประจำตำบล ส่งเสริมเทศกาลโคมยักษ์ บ้านดอนนา และบุญบั้งไฟบ้านก่อ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาของดีในชุมชน สู่แพลตฟอร์มออนไลน์ให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และนโยบายด้านคุณภาพชีวิต ติดตั้งกล้อง CCTV ใน 100 จุดเสี่ยง ซึ่งจะบริหารงานด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน
ส่วนหมายเลข 2 นายปราการ เจริญสุรสกล อดีตนายกเทศมนตรีตำบลขามเรียง แชมป์เก่า ทีมพลังรักษ์ขามเรียง ที่ส่งผู้สมัคร สท. ลงทั้ง 2 เขต หมายเลข 7-12 ที่ครั้งนี้ขอกลับมาสานต่อนโยบายเก่า เพิ่มนโยบายใหม่ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องชาวตำบลขามเรียง มีวิสัยทัศน์ในการทำงาน คือ ทำได้ ทำเป็น ทำเด่น ทำดี ทำทันที
นายปราการ เจริญสุรสกล ผู้สมัครหมายเลข 2 ทีมพลังรักษ์ขามเรียงกล่าวว่า ตนเองเป็นข้าราชการบำนาญ หลังเกษียณก็ได้อาสามาพัฒนาบ้านเมือง ด้วยความที่เป็นคนในพื้นที่ จึงอยากรับใช้ประชาชน ซึ่งการลงชิงตำแหน่งนายกฯ ในครั้งนี้ ไม่หนักใจ เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา สร้างผลงานค่อนข้างมาก ผลงานที่ออกมาก็เป็นสิ่งที่เห็นในเชิงประจักษ์ ว่าได้ทำอะไรไปบ้าง โดยเฉพาะในเรื่องของปัจจัยพื้นฐาน “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี มีงานทำ นำสังคม มีความสุข” โดยเฉพาะเรื่องน้ำ ในเทศบาลมี 23 หมู่บ้าน มีน้ำประปาภูมิภาคใช้แล้ว 20 หมู่บ้าน เหลืออีกเพียง 3 หมู่บ้าน ที่ยังไม่มีน้ำประปาใช้ ซึ่งตอนนี้ใช้ประปาหมู่บ้าน โดยทางเทศบาลได้เข้าไปดูแลจัดการ ซึ่งค่อนข้างที่จะสมบูรณ์ หากได้เข้าไปสานงานต่อ ก็จะพัฒนาให้ครบทั้ง 23 หมู่บ้าน ด้านไฟฟ้าแสงสว่าง ได้ติดตั้งไฟส่องสว่าง ครบทุกหมู่บ้าน แต่ถนนเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ยังไม่ครอบคลุม ในการที่จะเข้ามาครั้งต่อไป ก็ต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อให้พี่น้องได้ใช้เส้นทางสัญจรได้อย่างปลอดภัย ลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ ส่วนเรื่องถนน ก็จะจัดหางบประมาณปรับปรุงถนนปูพื้นถนนเป็นยางแอสฟัลติก ทุกสายในหมู่บ้านให้เป็นถนนไร้ฝุ่น ส่วนเรื่องการประกอบอาชีพ สนับสนุนให้ทำตลาดแก้จน เพื่อสร้างรายได้ เปิดพื้นที่ให้ขายของ ให้พี่น้องมีรายได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ที่กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ คือการสร้างสถานธนานุบาล หรือโรงรับจำนำ ที่จะให้บริการพี่น้องประชาชนได้เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ ส่วนเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกหมู่บ้าน ด้วยงบประมาณของเทศบาลที่มีจำนวนไม่มาก ปี 68 ตั้งงบไว้ที่ 93 ล้าน เงินส่วนใหญ่เป็นเงินอุดหนุนจากภาครัฐ ส่วนภาษีที่เก็บได้ก็ไม่มาก แต่ก็ถือว่าพอเพียงในระดับหนึ่ง ปัญหาหลักอีกเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือเรื่องขยะ ที่เกิดขึ้นในชุมชน ซึ่งจากการลงพื้นที่หาเสียง เสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนถือว่า ให้การตอบรับค่อนข้างดี ไม่หนักใจ เพราะเราอาผลงานการันตี ว่าทำงานด้วยความตั้งใจจริง เทศบาลตำบลขามเรียง เป็นพื้นที่กึ่งเมืองกึ่งชนบท บริบทการจัดการปัญหาต่าง ๆ ก็อาจจะแตกต่างกับพื้นที่อื่น 11 พฤษภาคมนี้ ถือเป็นวันตัดสิน ที่พี่น้องชาวตำบลขามเรียง จะออกมาใช้สิทธิ์ เลือกคนที่คิดว่าจะมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และพัฒนาชุมชนของตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป