วันที่ 10 มิถุนายน 2568 นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานเปิดเส้นทางตามรอยศรัทธาธรรม สักการะพระธาตุประจำวันเกิด จังหวัดนครพนมภายใต้โครงการจาริกเส้นทางเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา ซึ่งจัดขึ้นภายใต้โครงการ “จาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี ว่าที่ร้อยตรี รวยรุ่ง ใครบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นางยุวดี มีบุญ วัฒนธรรมจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้เข้าร่วมงานจากภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว สื่อมวลชน ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยว รวมกว่า 200 คน













กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย พิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระธาตุประจำวันเกิดวันเสาร์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 กิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน ใส่ผ้าไทย นั่งสาด ตักบาตรริมโขง” กิจกรรมหลัก “ตามรอยศรัทธาธรรม สักการะพระธาตุประจำวันเกิด” พร้อมเปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงศาสนาในจังหวัดนครพนม นิทรรศการสักการะพระธาตุประจำวันเกิด 7 วัน 8 พระธาตุ การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม และการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากเครือข่ายวัฒนธรรมในจังหวัด
สำหรับโครงการดังกล่าว กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ได้กำหนดจัดกิจกรรมใน 4 เส้นทางหลัก ได้แก่ 1. เส้นทางสักการะพระบรมธาตุ 2. เส้นทางตามรอยพระเถราจารย์ 3. เส้นทางความเชื่อและศรัทธาแห่งลุ่มน้ำโขง และ 4. เส้นทางในมิติศาสนาและวัฒนธรรมอื่น ๆ ทั้งนี้ จังหวัดนครพนมได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายสำคัญ เนื่องจากเป็น “เมืองแห่งพระธาตุ” ที่มีพระธาตุประจำวันเกิดครบทั้ง 7 วัน 8 องค์ ซึ่งถือเป็นทุนทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า สามารถนำมาต่อยอดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน
โครงการนี้สะท้อนถึงการนำนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรมมาขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติจริง ด้วยการใช้ทุนทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนา เชื่อมโยงศาสนสถาน โบราณสถาน ภูมิปัญญาท้องถิ่น และผู้ประกอบการทางวัฒนธรรมให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ พร้อมเสริมสร้างรายได้แก่ชุมชน ส่งเสริมอัตลักษณ์ และอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่ โดยจังหวัดนครพนมมุ่งมั่นที่จะเป็นจุดหมายด้านการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมในระดับประเทศ พร้อมเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงกับจังหวัดใกล้เคียงในกลุ่ม “สนุก” ได้แก่ สกลนคร และมุกดาหาร เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน