
วันนี้ (29 ก.ค. 68) ที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 ค่ายศรีสกุลวงศ์ อ.เมือง จ.สกลนคร นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมจิตร เหล่ามงคลนิมิต ผบก.ภ.จว.สกลนคร ,พ.ต.อ.คณิต กลิ่นศรีสุข รอง ผบก.ตชด.ภาค 2,พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย ผบ.บก.ควบคุมที่ 1 กกล.สุรศักดิ์มนตรี, พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 และหน่วยงานฝ่ายความมั่งคงในพื้นที่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 6 ราย พร้อมของยาไอซ์น้ำหนัก 500 กิโลกรัม และตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการ มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม


โดยเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ชุดปฏิบัติการข่าว ร้อย ตชด.235 และ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 สืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม แล้วนำไปพักในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ก่อนจะส่งผ่านไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้ประสานกับ ,กกล.สุรศักดิ์มนตรี ,ตำรวจน้ำ กก.10 บก.รน. ,ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ,นรข.เขตนครพนม นายอำเภอบ้านแพง ,สภ.บ้านแพง ร่วมกันทำการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดได้นำยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาพักไว้ในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งเปิดเป็นร้านรับส่งพัสดุด่วนทั่วไทย
จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชา แล้วร่วมประชุมวางแผนจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางกำลังซุ่มบริเวณรอบบ้านต้องสงสัย จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. พบผู้ต้องหาจำนวน 6 คน ได้ช่วยกันลำเลียงกระสอบต้องสงสัยลงจากรถกระบะ 4 ประตูที่จอดอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น เมื่อตรวจสอบเบื้องต้นว่าพบเป็น ยาไอซ์ บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ย จำนวน 11 กระสอบ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวและตรวจยึดของกลางทั้งหมด ไปที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 จ.สกลนคร เพื่อตรวจพิสูจน์




อย่างไรก็ตามแก๊งนี้นี้ได้พรางตาหรือตบตาเจ้าหน้าที่ด้วยการแพคหีบห่อเป็นแพคแพคละ 1 กก.โดยตีตราเป็นกาแฟ ซึ่งคนทั่วไปจะไม่รู้ว่าข้างในเป็นยาไอซ์ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนจากท่าเรือริมโขงรายละ 500 บาท ซึ่งทำมาแล้ว 10 กว่าครั้ง โดยนายจ้างบอกว่า เป็นกาแฟ ไม่รู้ว่าเป็นยาไอซ์
ผลจากการตรวจนับ พบยาไอซ์ น้ำหนักรวมกว่า 500 กก. เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” และส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง จ.นครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า ตามนโยบายการป้องกัน สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน Seal Stop Safe ของรัฐบาล และนโยบายปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ‘No Drugs No Dealers’ ของนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสกลนครจึงได้ บูรณาการผนึกกำลังลังทุกภาคส่วน เปิดปฏิบัติการ Re X-ray ค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด และผู้ค้า กำชับ “มาตรการยาแรง” พุ่งเป้ายาเสพติดต้องหมดไปจากสังคมไทย และเดินหน้าสแกนตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะขจัดยาเสพติดให้หมดสิ้นไป และหากพบเจ้าหน้าที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ต้องได้รับโทษตามระเบียบกฎหมาย
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ ก็ต้องชื่นชมทางชุดจับกุมที่มีการประสานการปฏิบัติกันทุกภาคส่วน และติดตามสืบสวนกันอย่างเข้มข้นตั้งแต่จังหวัดสกลนคร จนไปถึงจังหวัดนครพนม ถือว่าเป็นยาเสพติดล๊อตใหญ่ที่หากหลุดเข้ามาในพื้นที่ตอนในประเทศก็จะสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติเป็นอย่างมาก อีกทั้งผู้ค้ายาก็อาจจะอาศัยช่วงที่มีสถานการณ์บ้านเมืองลำเลียงยาเสพติด ซึ่งจริงๆแล้วหากมีสถานการณ์แบบนี้ทางหน่วยความมั่งคงยิ่งต้องทำงานกันอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะช่วงนี้ (ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. – 1 ส.ค. 68) ถือเป็นสัปดาห์สีขาว (Intensive Days Screening week) เป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่ต้องค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด และผู้ค้ายาเสพติด เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน ตามนโยบายปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ‘No Drugs No Dealers’ ของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนก็ระดมกำลังกันอย่าสุดความสามารถในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศไทยให้ได้