
จังหวัดยโสธรสนธิกำลัง 170 นาย จู่โจมเข้าตรวจค้นในเรือนจำทุกจุดป้องกันซุกซ่อนสิ่งของผิดกฎหมาย ยาเสพติด เครื่องมือสื่อสารและสิ่งของต้องห้ามอื่นๆพร้อมทั้งทำการสุ่มตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะผู้ต้องขัง

ที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำจังหวัดยโสธร นายสันชัย พัฒนวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษภายในเรือนจำจังหวัดยโสธรร่วมกับหน่วยงานภายนอก ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี นายเทอดศักดิ์ อังพัฒนพงษ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดยโสธร กล่าวรายงาน


ด้วยกรมราชทัณฑ์ได้มีนโยบายให้เรือนจำ และทัณฑสถานทั่วประเทศดำเนินการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษ ปีละ 4 ครั้ง โดยร่วมกับเรือนจำประธานเขต ปีละ 2 ครั้ง และร่วมกับหน่วยงานภายนอก ปีละ 2 ครั้ง วัตถุประสงค์ในจู่โจมตรวจค้นเพื่อกวาดล้างพื้นที่ที่อาจมีการลักลอบซุกซ่อนสิ่งของผิดกฎหมาย ยาเสพติด เครื่องมือสื่อสาร และสิ่งของต้องห้ามอื่นๆ พร้อมทั้งทำการมตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะผู้ต้องขัง รวมทั้งเป็นการป้องกัน ป้องปรามมิให้มีการลับลอบกระทำการหรือวางแผนที่จะกระทำการใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการควบคุม หรือก่อเหตุความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นภายในเรือนจำ เพื่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานมีความโปร่งใส สร้างความปลอดภัยให้แก่สังคมเป็นภาพลักษณ์ที่ดีต่อเรือนจำฯ และกรมราชทัณฑ์
ในการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษในวันนี้เป็นการสนธิกำลังกับหน่วยงานภายนอก ประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร จำนวน 40 นาย เจ้าที่ฝ้ายปกครองจังหวัดยโสธร จำนวน 20 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดยโสธร จำนวน 5 นาย เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวง ยุติธรรม จำนวน 15 คน และเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดยโสธร จำนวน 90 นายทั้งสิ้น จำนวน 170 นาย


โดยได้ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และยึดถือกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะการปฏิบัติการในวันนี้ ไม่เพียงแต่จะสร้างระเบียบวินัยภายในเรือนจำ แต่ยังเป็นการส่งสาสน์ที่ชัดเจนไปยังสังคมภายนอกว่า จะไม่ยอมให้เรือนจำเป็นแหล่งพักพิงหรือฐานบัญชาการของอาชญากรรม และทันทีที่สิ้นเสียงคำสั่งปล่อยแถว กำลังพลทั้ง 170 นาย ได้เคลื่อนขบวนเข้าสู่พื้นที่ภายในเรือนจำ รวมถึงประธานในพิธีและคณะหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้กระจายกำลังไปตามแดนต่าง ๆ อย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อปฏิบัติการตรวจค้นในทุกตารางนิ้วตามแผนที่ได้วางไว้ โดยมีเป้าหมายค้นหาสิ่งผิดกฎหมายที่อาจมีการซุกซ่อนไว้ตามที่ต่าง ๆ
อาทิ โรงนอนที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นอย่างละเอียดทั้งในส่วนของที่นอน หมอน มุ้ง และตู้เก็บของส่วนตัวของผู้ต้องขัง โรงฝึกวิชาชีพ ไปจนถึงพื้นที่ส่วนกลางและจุดอับไม่เว้นแม้แต่ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องสมุด ลานกิจกรรม หรือจุดที่ลับตาคน เพื่อค้นหาสิ่งของซุกซ่อนขนาดเล็ก เช่น ยาเสพติด หรือซิมการ์ดโทรศัพท์ อาวุธดัดแปลง หรือสิ่งของต้องห้ามที่อาจถูกซุกซ่อน เพื่อปิดทุกช่องโหว่ นอกจากนี้ยังมีการสุ่มตรวจหาสารเสพติดในกลุ่มผู้ต้องขังแบบไม่มีใครรู้ตัวล่วงหน้า เพื่อให้เรือนจำมีความโปร่งใส และสร้างความปลอดภัยให้แก่สังคม โดยภายหลังการตรวจค้นอย่างละเอียด ผลปรากฏว่าไม่พบสิ่งของต้องห้าม ยาเสพติด หรือการกระทำที่ผิดกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น