อำนาจเจริญประธานองค์กรชาวพุทธเตรียมแจ้งความหมอปลาและภรรยา แถลงข่าวเตรียมแจ้งความหมอปลาและภรรยา วอนขอร้องให้ทางจังหวัดอำนาจเจริญจงถือวิกฤตเป็นโอกาสเร่งพัฒนาวัดหลวงปู่แสงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมมะเป็นแหล่งปฏิบัติธรรมเผยแพร่ไปทั่วโลก
วันที่17 พค.2565 นางสาวอิงค์ณภัจฉร์ ชินวัตรนุวงศ์ ประธานชมรมรักษ์พุทธศาสน์นานาชาติ ได้กล่าวว่า ตนอย่างให้สกรีน บุคคลต่างๆที่จะเข้า กราบไหว้หลวงปู่แสง โดยจัดระเบียบให้ดี แต่ถึงยังไงก็ตาม คนที่คิดไม่ดีอย่างเช่นหมอปลา ก็ทำไม่ดีกับหลวงปู่จนได้ ตนเสียใจมาก ต่อจากนี้ไป ท่านจำวัดอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ให้จัดระเบียบให้ดีกว่านี้อีก การที่เข้าพบเข้ากราบไหว้ เข้าสนทนาธรรมกับหลวงปู่ ควรจะตรวตตราบุคคลให้ดี ดีแล้วที่จะตั้ง ผู้ปฏิบัติใกล้ชิด
หลวงปู่หลายๆคนเผื่อจะได้ช่วยเป็นหูเป็นตากัน จะไม่มีคนมากลั่นแกล้งท่านหลวงปู่ได้อีก ท่านเป็นเกจิอาจารย์ผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นศิษย์หลวงปู่มั่น คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ และยังเป็น เป็นเพื่อนกันกับ หลวงปู่คูณ เกจิชื่อดัง ระดับประเทศอีกด้วย สิ่งที่ตนจะขอร้องวิงวอนต่อไปอีกก็คือ ตนวอนให้หน่วยราชการไม่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่า ราชการจังหวัด สำนักพุทธ ตำรวจทหาร ความมั่นคง ควรลงมาจัดระเบียบวัด ของหลวงปู่ให้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะต่อจากนี้ไป จะมีบรรดาผู้ที่ทราบข่าว และศรัทธาหลวงปู่จะเดินทางมากราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก นี่แหละ เป็นสิ่งที่ดีของจังหวัด ต่างจังหวัดควรจะถือ หลักที่ว่า”ถือวิกฤต เป็นโอกาส” สร้างวัดปรับปรุงวัด ให้มีที่จอดรถด้านหน้า ปรับปรุงธรรมชาติด้านในให้เป็นธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งตนดูแล้ว เมื่อครั้งที่ตนเดินทางมาอำนาจเจริญเมื่อวานนี้ บรรยากาศข้างในสวยงามมาก และเจดีย์ของท่านที่ทราบว่าก่อสร้างเป็นเงินกว่า 70 ล้านบาทนั้น
ตรงนี้ น่าจะให้ผู้สื่อข่าว เข้าไปบันทึกภาพได้ห้ามทำไหมเพราะมุมต่างๆ รวมถึงถ่ายทำ มุมที่สวยๆงามๆ ออกสู่สายตาประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลก ได้เห็น จากที่ตน เข้าไปสัมผัสด้วยตนเองภายในวัดบรรยากาศราบรื่นดีมาก สงบ มีต้นไม้ขนาดใหญ่ขนาดเล็ก ขึ้นอย่างอุดมสมบูรณ์ ซึ่งชาวบ้านบอกว่าในช่วงหน้าฝนจะมีเห็ดชนิดต่างๆเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านมาเก็บสร้างรายได้ ให้กับหมู่บ้านชุมชน เป็นอย่างดี พื้นที่ในวัดก็กว้างขวาง มีต้นไม้ใหญ่สร้างความร่มรื่น เหมาะสำหรับในการปฏิบัติธรรม ของบรรดาหน่วยงานราชการต่างๆ จริงก็เคยทำมาแต่อดีต ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อำนาจเจริญ ก็เคยจัดปฏิบัติธรรม ในวัด แห่งนี้หลายครั้งหลายคราว ซึ่งก็ได้ผลดีเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว ทำไมทางจังหวัดไม่ถือวิกฤตเป็นโอกาส สร้างวัด ให้เป็นที่รู้จัก ของประชาชนทั่วทั้งประเทศและทั่วโลก แล้วประชาชนเขาจะพากัน เดินทางมาสักการะหลวงปู่ ซึ่งเป็นเกจิชื่อดัง แห่งลุ่มน้ำโขง ของภาคอีสาน ต้นจึงวอนหน่วยงานราชการมองเห็นตรงนี้ด้วย และอีกอย่าง ต่อจากนี้ไป
การที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าว ในพื้นที่วัด เพื่อเผยแพร่สิ่งดีๆสวยๆงามๆสู่สาธารณชน นั้น ไม่ควรไปกีดกันเขา การบันทึกภาพ ขอนักข่าวจะแตกต่างจาก บุคคลธรรมดา ที่ไม่รู้ มุมกล้องและการถ่ายทำที่สวยงามลงตัวนำเผยแพร่ได้ โดยเฉพาะการถ่ายหลวงปู่ ในช่วงที่หลวงปู่อยู่ใน ท่าทางที่ดูดี หากไม่ใช่นักข่าวแล้วคนทั่วๆไปที่บันทึกภาพมุมกล้องอาจไม่เป็นไม่รู้เรื่องมุมกล้อง ถ่ายคลิปหรือถ่ายอะไรออกไป เมื่อภาพหลุดออกไปสู่สาธารณชนจะเป็นภาพไม่น่าดู ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหลวงปู่ พระอุปัชฌาย์คือศิษย์หลวงปู่อุปัชฌาย์ควรดูจุดนี้ด้วย ส่วนทางด้านสื่อมวลชนและผู้สื่อข่าวไม่ควรไปห้ามปรามเขา เขามีจรรยาบรรณในการนำเสนอข่าวถ่ายภาพอยู่แล้วในการถ่ายทุกครั้งเขาต้องการให้สิ่ออะไรออกไป ภาพที่ไม่เหมาะสมเขาจะไม่นำไปออกอากาศหรือลงตีพิมพ์อย่างเด็ดขาด ตนเชื่อเช่นนี้
และหลังจากที่ได้แถลงข่าวจุดยืนที่จะปกป้องพระพุทธศาสนาจากการคุกคามพระพุทธศาสนาและพระสงฆ์โดยกระบวนการใช้สื่อโซเชียล อีกว่าจะดำเนินการ แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ที่ก่อเหตุ ในคลิปข่าวที่เป็นประเด็นที่ผ่านมา
จากการสืบเสาะของโซเชียลและข่าวที่ออกมา ที่นายปลากับนางน้ำฟ้าเป็นอิสลามนั้นยิ่งทำให้ชาวพุทธได้เห็นชัดเจนถึงกระบวนการทำลายพระสงฆ์และคุกคามพระพุทธศาสนาที่สอดคล้องกับการฆ่าพระสงฆ์และชาวพุทธทางจังหวัดชายแดนใต้
ที่ตอนนี้การทำลายพระสงฆ์ออกมาให้เห็นรายวันโดยเน้นใส่ร้ายป้ายสีและส่งกระจาย
ทางโซเซียลมากกว่าการแสวงหาข้อเท็จจริง
แล้วที่สำคัญที่สุดการขออภัยกับพระผู้ใหญ่พระเถระท่านให้อภัยอยู่แล้วแต่อย่าลืมว่าคนนอกศาสนาไม่เข้าใจคำว่าเมตตากรุณามุทิตาอุเบกขาและอย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ให้ธรรมะกับคนนอกรีตหรือคนนอกศาสนาอย่าใจดีเกินไปค่ะ
และตอนนี้ทางฝ่ายกฎหมายของชมรมรักษ์พุทธศาสน์นานาชาติโดยกองบุญทนายปกป้องและสืบสานพระพุทธศาสนาได้เข้ามาร่วมในการดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ที่กระทำการอันไม่บังควรในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาสในวัดนมีประชาชน เดินทางไป ให้กำลังใจหลวงปู่ถามอาการหลวงปู่ และเยี่ยมชม บรรยากาศในวัด ที่มีบรรยากาศอย่างร่มรื่นพร้อมกับเจดีย์อันสูง โป่งยางสวยงาม ซึ่งก่อสร้าง กว่า 70 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีศาลาที่ปฏิบัติธรรม อบรมธรรมะของหน่วยราชการ ต่างๆ ที่เคยเข้ามาอบรมธรรมะ ให้กับ หน่วยงานต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการสอบถามประชาชน ที่เดินทางไปคารวะหลวงปู่ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ เงียบสงบน่าอยู่ยิ่งนัก สิ่งที่ทางนักท่องเที่ยวเชิงธรรมมะขอร้องก็คือ อยากถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ภายในวัดด้วย ขอให้อย่าห้ามปรามกันอีกเลย พวกตนเดินทางมาจากต่างจังหวัดไกลๆ ก็อยากมีภาพสวยๆงามๆในวัด ถ่าย ไว้เป็นที่ระลึก บางครั้งมาไม่เห็นหลวงปู่ ได้ถ่ายกุฏิหลวงปู่ก็ยังดี ขอให้ อย่าหวงห้ามกันอีกเลย วอลทางจังหวัดลงมาดูตรงนีนด้วย ซึ่งจะเป็นแนวทางในการปฏิบัติ ที่สอดคล้องกันไป กับผู้ดูแล ควบคุม อยู่ภายในวัด ฝากถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ให้เห็นใจพวกตนด้วย พวกตัวอยากเข้าใกล้และสัมผัสหลวงปู่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่ามากีดกันเรื่องการถ่ายภาพเลย