คืบหน้า ตร.รู้ตัวแล้วคนขับรถตู้จอดขวางกลางสี่แยกยืนโบกให้ขบวนรถตู้กว่า 70 คัน วิ่งฝ่าสัญญาณไฟ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุชนกัน พร้อมเรียกเข้ารับทราบข้อกล่าวหาวันนี้ ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.จราจร ส่วนกรณีที่ประธานกลุ่มรถตู้ออกมาชี้แจงว่าได้ทำหนังสือแจ้งตำรวจ เพื่อขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ขบวนก่อนแล้วนั้น ผกก.เผยทำหนังสือมาจริงแต่กำลัง ตร.ไม่พอเพราะไปจัดการจราจรซ้อมรับปริญญา

จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์ ได้มีการแชร์คลิปที่มีรถตู้ 2 คันจอดขวางกลางถนน บริเวณสี่แยกภัทรบพิตร ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จากนั้นคนขับรถตู้คันหนึ่ง ก็ลงมาจากรถแล้วยืนโบกให้สัญญาณขบวนรถตู้มากกว่า 70 คัน วิ่งผ่านแยกและฝ่าสัญญาณไฟ จนช่วงระหว่างที่คนขับรถตู้ที่ลงมายืนโบกรถให้ขบวนรถตู้ผ่านวิ่งขึ้นไปขับรถของตัวเอง ก็มีรถเอนกประสงค์สีดำซึ่งวิ่งมาตามปกติเพราะเป็นสัญญาณไฟเขียว แต่รถตู้ซึ่งน่าจะมากับขบวนขับฝ่าไฟแดงโผล่ออกมา ทำให้เกิดอุบัติเหตุชนกันได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ (2 ก.ย.66) ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (4 ก.ย.66) ผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าวที่สถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ โดย พ.ต.ต.เศรษฐพงษ์ มีกลม สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ก็ให้ข้อมูลว่าตอนนี้ทราบตัวคนขับรถตู้ที่ยืนโบกรถกลางถนนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันตามที่ปรากฎในคลิปแล้ว และได้ติดต่อประสานให้มาพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งทางคนขับรับปากว่าจะเข้ามาพบภายในวันนี้ โดยการกระทำของคนขับรถตู้เข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.จราจร เพราะไม่ใช่เจ้าพนักงานจราจรไม่สามารถกระทำได้ ซึ่งตามกฎหมายก็จะมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 2 พันบาท

ส่วนกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน เบื้องต้นก็ได้ทำการเปรียบเทียบปรับคนขับรถตู้ที่ฝ่าสัญญาณไฟแดงเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ส่วนความเสียหายทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้
ส่วนที่ประธานกลุ่มรถตู้ “สายลมคลับ” ที่ออกมาชี้แจงผ่านสื่อโซเชียลว่า วันนั้นมีคณะรถตู้ประมาณ 70 คัน จะไปทำบุญที่วัดป่าเขาน้อย ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อขอให้จัดเจ้าหน้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแล้ว แต่ทางตำรวจแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ต้องไปอำนวยความสะดวกงานซ้อมรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์
กรณีดังกล่าวผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ก็ชี้แจงว่าทางคณะรถตู้ได้ทำหนังสือแจ้งมาจริง แต่เนื่องจากวันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรต้องไปปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจร งานซ้อมรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยราชภัฎ ทำให้กำลังตำรวจไม่เพียงพอจึงไม่สามารถไปอำนวยความสะดวกให้คณะรถตู้ดังกล่าวได้ แต่ตาม พ.ร.บ.จราจรประชาชนก็ไม่สามารถที่จะกระทำได้