อุบลราชธานี – ชาวบ้านหลายจังหวัดแห่แจ้งจับสาวแสบชาวศรีสะเกษ ตั้งบริษัทชนิดา ภาทัวร์ 888 หลอกจะพาไปทำงานเกษตรตามฤดูกาลที่เกาหลีใต้สูญคนละหลายหมื่น อ้างจะได้ค่าแรงเดือนละเฉียดแสน ถึงวันนัดเดินทางหอบเงินชิ่งหนี ตร.เร่งประสานอายัดบัญชี และขอออกหมายจับเพิ่ม หลัง ตม.จับกุมเตรียมหนีออกนอกประเทศ
เมื่อวันที่ 4 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านจากหลายจังหวัดในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สระบุรี สระแก้ว และ จ.สุรินทร์ 19 คน แห่นำหลักฐานสลิปการโอนเงิน และข้อความการสนทนา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี ให้ดำเนินคดีกับ นางสาว ชนิดาภา มังษา อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 41 หมู่ 2 ต.หนองบัว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากมีพฤติกรรมฉ้อโกงหลอกลวงชาวบ้านว่าจะพาไปทำงานเกษตรตามฤดูกาลที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยบอกว่าจะได้ค่าแรงสูงถึงเดือนละ 60,000 บาท ถ้ารวมโอทีด้วยก็เกือบ 1 แสนบาท ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อ นอกจากนั้น นางสาว ชนิดาภา มังษา ยังสร้างโปรไฟล์ให้ดูน่าเชื่อถือด้วยการทำตัวเหมือนคนมีเงิน มีวิธีการหลอกลวง 3 แบบ เช่นมาหาที่บ้านเลี้ยงข้าว ชักชวนให้ไปทำงานต่างประเทศคือประเทศเกาหลี วีซ่า E 8 จากนั้นก็จะเรียกรับเงินค่าพาสปอร์ต และค่าดำเนินการ ซึ่งแต่ละรายยอดจะไม่เท่ากัน บางยอด 8 หมื่นบางยอด 1 แสนกว่าบาทแล้วแต่จะหลอกได้ ถึงเวลาบินก็จะสร้างภาพโดยการถ่ายรูปให้เชื่อใจ หลังจากรู้ตัวว่าถูกหลอกชาวบ้านจึงได้พากันเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ นางสาว ชนิดาภา มังษา ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ รวมเป็นเงินที่ถูกหลอก 19 คนรวมเป็นเงิน 97,1100 บาท และล่าสุดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมานางสาว ชนิดาภา มังษา กำลังจะเดินทางออกนอกประเทศแต่ถูกเจ้าหน้าที่ที่ตรวจคนเข้าเมืองจับในคดีฉ้อโกงทรัพย์ ตามหมายจับของ สภ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์
นางสำราญ ทองชุม อายุ 48 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า เสียหายประมาณ 70,000 กว่าบาทโอนไป5 ครั้งที่เชื่อสนิทใจก็เพราะปากต่อปากเพื่อนชวนเห็นเพื่อนจะได้ไปกันก็เลยหลงเชื่อเพื่อนที่ชวนก็กำลังดำเนินการเหมือนกัน รอบินไปต่างประเทศเหมือนกันเพื่อนก็ถูกหลอกด้วยกันกลุ่มที่ไปประมาณ 19 คนยังไม่รวมจังหวัดอื่น ทราบว่าคนที่หลอกเราติดคุก ก็หมดหนทางไม่คิดอะไรมากแต่ขอได้เงินคืนที่มาแจ้งความอยากยืนยันเอกสาร ที่สำคัญกลัวเขาเอาเอกสารไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เงินที่เอาไปให้นางสาว ชนิดาภา ก็ยืมเงินมาหวังจะให้ลูกได้ไปทำงานที่เกาหลีใต้เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานต่างๆเข้ามาช่วยเหลือเพราะไม่มีที่พึ่งพวกเราหมดหนทางที่จะสู้
นางสาวชาลิสา คำสาลี อายุ 38 ปี พนักงานราชการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพส่วนตำบลน้ำขุ่น เล่าว่าเห็นพี่ที่ทำงานด้วยกันได้ทำวีซ่าแล้วก็ลาออก ก็เลยลองยื่นกับทำวีซ่าดูว่าจะได้ไหมและก็อยากไปด้วยอยากไปให้ถูกต้องตามกฏหมายไม่อยากเป็นผีน้อยและพี่ที่ทำงานก็ให้เฟสมาคุยกับคนนี้ก็เลยทักไปว่ารับทำวีซ่าไปทำงานที่เกาหลีใต้ ไปโดยถูกต้องตามกฏหมายและตามฤดูกาลไปได้ 3 ปี 9 เดือนก็เลยให้ทำวีซ่าให้เพราะทำงานราชการอยู่ประเทศเราถ้าทำงานอย่างนี้ก็มีหน้ามีตา แต่ไม่มีกิน เงินเดือนไม่พอใช้ ลำบากติดหนี้ ถึงอยากดิ้นรนไปเพื่อครอบครัวเพื่อญาติพี่น้อง พอรู้ว่าถูกหลอก มีพี่คนหนึ่งแชทมาบอกว่ากรรมตามสนองแล้ว โดนจับแล้วคนขี้โกงและก็โทรไปหาก็ไม่รับสายแสดงว่าโกงเราแน่นอนที่ออกมาพูดอยากมาเรียกสิทธิ์ไม่อยากให้เขาไปโกงคนอื่นเหมือนที่เราโดนโกง เพราะเขาโกงคนอื่นมาแล้วที่เขาโดนจับ
ด้าน พ.ต.ท.ประนต หงส์ทอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี กล่าวว่าได้รับคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายไว้แล้ว เพื่อจะได้ดำเนินการประสานอายัดบัญชี และขอออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป