ตำรวจบุรีรัมย์สนธิกำลังหลายฝ่ายจับแก๊งค้ายาบ้ารายสำคัญ 4 เครือข่าย ผู้ต้องหา 4 คดี 8 คนของกลางกว่า 211,900 เม็ด ยาไอซ์ 959 กรัม ล็อตใหญ่สุดในรอบปีนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
วันที่ 11 ก.ย. 2566 พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม แก๊งค้ายาเสพติดรายสำคัญ 4 เครือข่าย ผู้ต้องหา 4 คดี 8 คนของกลางยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 211,900 เม็ด ยาไอซ์ 959 กรัม ที่หอประชุมชัยจินดา ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ นำโดย พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์ /หน.ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.ต.สุวัฒน์ นามมงคล สว.สส.กก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ชปส. ร้อย ตชด.215, 216, เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยปราบปรามยาเสพติด ขกท.ศปก.ทบ.(นฝด.22) , ขกท.กกล.สุรนารี), เจ้าหน้าที่ทหาร สขว.กอ.รมน., เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพราน ที่26, เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบุรีรัมย์, เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอสตึก, เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอบ้านด่าน, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.บุรีรัมย์ ได้บูรณาการกำลังจับกุม ดังนี้
คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ร่วมกันจับกุม 1. นายไม้ อายุ 19 ปี ที่อยู่ จ.บุรีรัมย์ 2. นายวุฒิ อายุ 19 ปี ที่อยู่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 1,934 เม็ด จับกุมพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จากนั้นได้ขยายผลจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายที่ 2 เมื่อวันที่ ๘ กันยายน 2566 ร่วมกันจับกุม 1. นายโฟล์ค อายุ 21 ปี ที่อยู่ จ.บุรีรัมย์ 2. นายแชมป์ อายุ 17 ปี ที่อยู่ จ.บุรีรัมย์ 3. นายภู อายุ 18 ปี ที่อยู่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 100,000 เม็ด จับกุมในพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ต่อเนื่อง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์
จากนั้นขยายผลจับกุมเครือข่ายที่ 3 ได้ เมื่อวันที่ ๗ กันยายน 2566 ร่วมกันจับกุม 1. นายเจ อายุ 23 ปี ที่อยู่ จ.บุรีรัมย์ 2. นายต๊อก อายุ 25 ปี ที่อยู่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลาง – ยาบ้า จำนวน 89,980 เม็ด- ยาไอซ์ จำนวน 959 กรัม จับกุมในพื้นที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
จากนั้นขยายผลจับกุมเครือข่ายที่ 4 เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 ร่วมกันจับกุม นายไว อายุ 35 ปี ที่อยู่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 20,000 เม็ด จับกุมพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 คดี ถูกแจ้งข้อหา กระทำความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการขายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”
