ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 11 กย. 2566 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมอาคารมูลนิธิร่วมน้ำใจ ลิ้มชัยอุทิศ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู องค์กรภาคเอกชนจังหวัดหนองบัวลำภู นำโดย นายวิสูตร คำอินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วย นายมนัสชัย สกัดกลาง ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภู นายสุดใจ พนมเขต นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดหนองบัวลำภู ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดหนองบัวลำภู ประธานสมาพันธ์ SME ไทยจังหวัดหนองบัวลำภู ประธานสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์จังหวัดหนองบัวลำภูประธานชมรมโรงแรมที่พักร้านอาหารจังหวัดหนองบัวลำภู พ่อค้าคหบดี อดีต ส.ส.จังหวัดหนองบัวลำภู และคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมประชุมปรึกษาหารือเบื้องต้น ในหัวข้อมิติการขับเคลื่อนและพัฒนาจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อเสนอต่อส่วนราชการและคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.สัญจร) ที่จังหวัดหนองบัวลำภูเป็นครั้งแรก ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ในช่วงประมาณ เดือน พฤศจิกายน 2566 นี้









นายวิสูตร คำอินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวภายหลังการประชุมปรึกษาหารือขององค์กรภาคเอกชนจังหวัดหนองบัวลำภู หลังทราบข่าวว่าจะรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 จะมีการประชุม ครม.สัญจร ต่างจังหวัดเป็นครั้งแรกในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีรายได้ประชากรต่อหัวต่อคนน้อยที่สุดในลำดับท้ายๆสุดของประเทศ โดยในวันนี้เป็นเพียงวันแรกเพื่อจะกำหนดกรอบและแนวทางว่าจะนำเสนอประเด็นปัญหาที่ผ่านมาของจังหวัดหนองบัวลำภูหลังจากจัดตั้งเป็นจังหวัดหนองบัวลำภู ได้ 30 ปีแล้วอะไรคือจุดอ่อน จุดแข็งที่จะร่วมพัฒนาไปข้างหน้าซึ่งเป็นความต้องการของภาคเอกชน หลังจากนั้นจะร่วมประชุมภาคเอกชนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกำหนดกรอบแนวทาง ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ จากทุกภาคส่วนมาร่วมกันสรุปเป็นแนวทางซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป แต่เป็นเพียงวางแนวทางไว้กว้างๆ ก่อน และจะทำการประชุมอีกในเร็วๆนี้
นายวิสูตรฯ ประธานหอการค้าจังหวัดหนองบัวลำภู ยังได้กล่าวต่อว่า การมาประชุมสัญจร ครม.ของรัฐบาลชุดใหม่ที่จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นเรื่องที่ดีสำหรับจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งภาคเอกชนของจังหวัดหนองบัวลำภู จะเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกับส่วนราชการจึงได้นัดหมายมาคุยและปรึกษาหารือกันว่า เราจะเตรียมการต้อนรับ คณะรัฐมนตรีสัญจร อย่างไรในเบื้องต้น หลักๆ ก็มีคุยกันในเรื่อง โครงสร้างพื้นฐาน เรื่องการคมนาคม สถานที่ท่องเที่ยว เรื่องเกษตร เรื่องน้ำ เกี่ยวกับเรื่องสินค้าโอท้อปในจังหวัดหนองบัวลำภู ในเบื้องต้นได้คุยกันไว้เพียงแค่นี้ และก็จะมีการนัดประชุมกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ข้อมูลแนวทางกระชับลงมาอีก ในนามขององค์กรภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็น หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รู้สึกตื่นเต้นและยินดีที่ท่าน นายกรัฐมนตรีท่านได้กรุณาที่จะมาจัดประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นจังหวัดแรกและเราคาดว่าจะมีเงินสะพัด จะมีนักท่องเที่ยวและผู้ติดตามจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการด้านที่พัก ร้านอาหาร จะมีลูกค้าและมีรายได้เพิ่มขึ้น จังหวัดหนองบัวลำภู พื้นที่ส่วนมากประมาณ 60-70 % เป็นพื้นที่เกษตร ประชาชนพี่น้องหนองบัวลำภู จะเป็นเกษตรกร ดังนั้นปัญหาเร่งด่วนของทางจังหวัดหนองบัวลำภู คือ เรื่องพืชผลทางการเกษตร ปัญหาแหล่งน้ำที่จะมาช่วยเพิ่มผลผลิตพืชผลทางการเกษตร หอการค้าจังหวัดหนองบัวลำภู มองว่าจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและเชิงวัฒนธรรมมากมาย อยากให้จังหวัดหนองบัวลำภู มีแลนด์มาร์คแห่งใหม่ สัก 2-3 ที่ซึ่งขณะนี้ทางหอการค้าจังหวัดหนองบัวลำภู กำลังผลักดันให้มีแลนด์มาร์คแห่งใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาจากทางภาคเหนือผ่านจังหวัดหนองบัวลำภู ตามเส้นทางหมายเลข 210 จะไปเที่ยวงานพืชสวนโลกในปี พ.ศ. 2569 เป็นเรื่องที่เราอยากได้มากที่สุด สำหรับสถานที่แลนด์มาร์คที่อยากให้มีขึ้น ซึ่งสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู และโยธาธิการและผังเมือง มองไว้ว่าจะเป็นสนามนเรศวรมหาราช ออกแบบจำลองไว้เป็นหอหลา เป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่สกายวอล์ค เป็นลานขายสินค้า วัฒนธรรม โอท้อป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว ก่อนที่จะขึ้นหอหลา เข้าถวายสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก่อนแล้วก็มาชื่นชมกับสินค้าโอท้อป ซึ่งจะเป็นสินค้าผลิตภัณฑ์ผ้า หรือสินค้าทางการเกษตรของจังหวัดหนองบัวลำภู แล้วก็จะเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีชมพืชสวนโลกต่อไป
ส่วนทางด้าน นายมนัสชัย สกัดกลาง ประธานสภาอุตสาหกรรมหนองบัวลำภู กล่าวว่า ถ้ามองจังหวัดหนองบัวลำภู ในภาพรวมตอนนี้เราก็อยู่ในตำแหน่งสุดท้ายของรายได้ เพราะส่วนใหญ่ ประชากรจะเป็นเกษตรกรเสียส่วนใหญ่ หากเรามองเรื่องการพัฒนาไปข้างหน้าก็เป็นเรื่องของการแปรรูป มีภาคอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการแปรรูปมา และสิ่งสำคัญปัญหาที่พบก็คือเรื่องผังเมือง ที่ยังไม่เรียบร้อย ทำให้นักลงทุน นักธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายใน ไม่กล้าที่จะลงทุน เพราะว่าผังเมืองยังไม่ชัดเจน ซึ่งตอนนี้ ทั้งหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมและท่องเที่ยว ภาคเอกชน กำลังผลักดัน อยากให้ผังเมืองออกมาชัดเจนในการที่จะพัฒนาบ้านเมืองต่อไป นายมนัสชัยฯกล่าวทิ้งท้าย