เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 กันยายน 2566 ร.ต.อ.อภิมุข สุวรพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ ที่บ้านเลขที่ 527/441 บ้านสินชัยธานี หมู่ 5 ซอยหนองเตาเหล็ก เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วยตำรวจสืบสวน รุดไปตรวจสอบ







พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด พบ น.ส.ชนกพร มั่งสมบูรณ์ อายุ 32 ปี เจ้าของบ้าน นำตำรวจตรวจที่เกิดเหตุ พบมีร่องรอยงัดหน้าต่างหลังบ้าน ภายในบ้านพบตัดสายเบรกเกอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่ในห้องครัว ส่วนทรัพย์สินภายในบ้านหายไปมีเครื่องพิมพ์ดีดยี่ห้อ Olympia 1 เครื่อง ก๊อกน้ำ 2 ตัว ลวดทองแดงและคอยล์ร้อนตู้เย็น พระเครื่องเกจิอาจารย์ดังที่สะสมไว้หลายสิบองค์ เหรียญสะสม มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 แสนบาท โจรได้เข้ามาลักก่อนหน้านี้ และตนไปแจ้งตำรวจเมื่อวันที่ 12 กันยายน และวันนี้โจรก็มาอีก
น.ส.ชนกพร เจ้าของบ้านเล่าว่า ตนอาศัยอยู่บ้านหลังนี้กับพ่อแม่และปู่มาตั้งแต่เด็ก ต่อมาปู่พ่อและแม่เสียชีวิต ตนจึงได้ย้ายไปอยู่บ้านตากับยายที่ซอยพรหมประกาย เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยปิดบ้านหลังนี้ไว้ ไม่มีคนอยู่ประมาณ 5 ปี แต่ตนจะมาดูแลทำความสะอาดประจำ ครั้งสุดท้ายตนมาดูบ้านเมื่อวัน 20 สิงหาคม 2566 ต่อมาวันที่ 08.30 น.วันที่ 12 กันยายน 2566 ตนกลับมาดูบ้าน ก็พบว่าบ้านถูกงัด
น.ส.ชนกพร เล่าต่อว่า วันนี้เพื่อนบ้านที่อยู่ตรงกันข้ามได้โทรบอกว่า โจรได้เข้ามาลักทรัพย์ที่บ้านตนอีกแล้ว โดยมีกล้องวงจรปิดเห็นโจรเข้าไปในบ้านตั้งแต่เวลา 01.30-03.40 น. ตนจึงมาดูบ้านก็พบว่าคนร้ายงัดหน้าต่างหลังบ้าน เข้าไปตัดสายเบรกเกอร์ ซึ่งบ้านที่อยู่ติดกันก็เป็นบ้านร้างไม่มีใครอยู่ ก็โดนคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์สินไปหมด แม้แต่ขอบหน้าต่างก็งัดแงะลักไป
“ ทรัพย์สินที่ตนเสียดายมากที่สุดก็คือเครื่องพิมพ์ดีดของแม่ ตนรักมากเพราะเปรียบเหมือนตัวแทนของแม่ ตนเอาไว้ดูต่างหน้าในยามคิดถึงแม่ แต่คนร้ายได้ลักไป หากใครรับซื้อเครื่องพิมพ์ดีดไว้ก็แจ้งให้ทราบด้วย ตนจะไปซื้อคืน”
ส่วนนายเร นามสมมติ อายุ 40 ปี เพื่อนบ้านตนเป็นคนนอนดึก แต่ได้ยินเสียงสุนัขเห่า จึงเปิดกล้องวงจรปิดดู ก็พบคนร้ายเป็นชาย 2 คน ปีรั้วเข้าไปลักทรัพย์ แต่ไม่ได้ออกมาดูและแจ้งตำรวจ เพราะรู้ว่าเจ้าของบ้านไปแจ้งตำรวจแล้ว จึงตัดภาพจากกล้องวงจรปิด ส่งให้เจ้าของบ้าน ซึ่งในหมู่บ้านจะไม่ค่อยมีโจรผู้ร้ายเข้ามาลักทรัพย์บ่อย ส่วนตนได้สร้างรั้วให้สูงเพื่อป้องกันทรัพย์สินตัวเอง