ที่ประตูระบายน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง ต.โคกสะอาด อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี นายสุนทร คำศรีเมือง ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สนง.ชป.ที่ 5 อุดรธานี และเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง ร่วมกันประเมินสถานการณ์น้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยหลวงจำนวนมาก และได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำ 20 เซนติเมตร จำนวน 1 บาน และเปิดประตูระบายน้ำลงคลองชลประทานทั้ง 2 แห่งพร้อมกัน เพื่อไม่ให้พื้นที่การเกษตรบริเวณท้ายอ่าง ได้รับผลกระทบเสียหายน้อยที่สุด หากระบายน้ำในอ่างฯออกไปทีเดียวในปริมาณมากๆ และเป็นการบริหารการจัดการน้ำให้เหมาะสม
“เพื่อให้มีน้ำอุปโภคบริโภคไปจนถึงหน้าแล้งปีหน้า และไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสันเขื่อนที่ทำจากดิน พร้อมกับเป็นการเตรียมรองรับน้ำฝนที่ตกลงในอ่างฯ และเหนืออ่างฯติดต่อกันมา 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินความคาดหมาย และใกล้ถึงความจุสูงสุดของอ่างฯ ที่สามารถบรรจุน้ำได้ ประมาณ 135 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งขณะนี้น้ำในอ่างฯมีประมาณ 125 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นค่าเฉลี่ยของปริมาณน้ำถึง 92 เปอร์เซ็นต์ และปริมาณน้ำในอ่างฯปีนี้มีมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ที่มีปริมาณน้ำคิดเป็นค่าเฉลี่ยประมาณ 60 ล้าน ลบ.ม. หรือไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันทยอยนำเครื่องมือมาจับปลาบริเวณหน้าประตูระบายน้ำ”
ขณะที่ประตูระบายน้ำแก้มลิงบ้านหัวขัว ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เปิดประตูระบายน้ำประมาณ 50 เซนติเมตร จำนวน 1 บาน มาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อรองรับน้ำที่ระบายออกมาจากอ่างห้วยหลวงที่อยู่ห่างกันประมาณ 7 กิโลเมตร ให้ไหลไปตามลำห้วยหลวงจนถึงประตูระบายน้ำบ้านสามพร้าว ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี ที่เปิดประตูระบายน้ำขึ้นทั้ง 4 บาน เพราะมีปริมาณน้ำสูง และไหลช้า โดยมีเจ้าหน้าที่ สนง.ชป.ที่ 5 อุดรธานี กำลังเร่งติดตั้งเครื่องพลักดันน้ำ จำนวน 4 เครื่อง เพื่อช่วยพลักดันมวลน้ำที่ปล่อยออกมาจากอ่างห้วยหลวง และอ่างเก็บน้ำใกล้เคียง ลงสู่แม่น้ำโขง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำต่ำกว่าห้วยหลวงประมาณ 1 เมตร
นายสุนทร คำศรีเมือง ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง เปิดเผยว่า ปีนี้ฝนตกลงในอ่างฯและเหนืออ่างฯ ทำให้มรปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ในห้วงเวลาเดียวกัน น้ำในอ่างฯเฉลี่ยอยู่ที่ 60 ล้าน ลบ.ม. ต่างกันกับปีนี้ที่มีปริมาณน้ำถึง 125 ล้าน ลบ.ม. วันนี้เวลา 09.00 น. ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง และทาง สนง.ชป.ที่ 5 อุดรธานี ได้ประเมินสถานการณ์และบริหารจัดการน้ำในอ่างฯ และได้ยกประตูระบายน้ำขึ้น 20 เซ็นติเมตร จำนวน 1 บาน หลังจากทำหนังสือแจ้งเตือนไปตามหน่วยงานที่เกี่ยข้องแล้ว เนื่องจากเราคาดการณ์ไว้เมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่มประมาณ 12 ล้าน ลบ.ม. แต่กลับมีน้ำไหลเข้าอ่าง 32 ล้าน ลบ.ม. หรือเกือบ 3 เท่าตัว ส่งผลให้ปริมาณน้ำพุ่งขึ้น 125 ล้าน ลบ.ม. หรือ 92 เปอร์เซ็นต์ ของความจุอ่าง ทางเราจึงต้องพร่องน้ำออก เพื่อรักษาความสมดุลของอ่างฯ ตามหลักเกณฑ์ในการบริหารจัดการน้ำ
”อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายสำนัก ออกมาคาดการณ์ไว้ว่า ปีนี้จะเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ หรือภัยแล้งที่ยาวนาน ทางเราจึงต้องเก็บน้ำไว้ในอ่างฯให้มากที่สุด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในฤดูแล้งที่จะถึงนี้ รวมทั้งน้ำอุปโภคบริโภค ที่ทางเราส่งไปให้การประปาส่วนภูมิภาคอุดรธานี ใช้ผลิตน้ำประปาให้ชาวเมืองอุดรธานี อย่างเพียงพอ และคาดว่าในช่วงกลางเดือนตุลาคม นี้ ปริมาณน้ำคงจะมีเต็มเขื่อนพอดี ส่วนการพร่องน้ำออกจากอ่างในขณะนี้ อยู่ที่ 7 แสน ลบ.ม./วัน เราจะไม่เปิดในปริมาณที่มาก เพื่อให้ชาวเกษตรกรตามลำห้วยหลวง และในตัวเมืองอุดรธานี ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ในด้านความสมดุลเรื่องน้ำท่วม แต่ในพื้นที่ลุ่มต่ำก็จะได้รับผลกระทบบ้าง ถ้าไม่มีพายุฝนมาซ้ำอีก”