ข่าวอัพเดทรายวัน

จ.นครพนม ประกอบพิธีวางพวงมาลารำลึกถึง พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย

วันที่ 24 กันยายน 2566 ที่บริเวณโรงพยาบาลนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม วันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ตลอดจนคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานด้านการสาธารณสุขของจังหวัดนครพนม นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม ภาคเอกชน และประชาชนจังหวัดนครพนม ประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายบังคมพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย เนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2566 พร้อมมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติแก่ผู้ที่ให้การสนับสนุนด้านการแพทย์โรงพยาบาล มอบโล่เชิดชูเกียรติแก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีผลงานดีเด่นด้านพัฒนาวิชาการทางด้านการแพทย์ การพยาบาล การสาธารณสุข และการปฏิบัติงานบริการประชาชนดีเด่น ก่อนที่ทุกคนจะร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อนำเงินรายได้ไปจัดซื้อวัสดุ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ไว้ช่วยเหลือผู้ป่วย

โดยสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า มีพระเชษฐาและพระเชษฐภคินีที่ประสูติร่วมพระราชมารดา 7 พระองค์ พระองค์มีคุณูปการแก่กิจการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของประเทศไทย ประชาชนทั่วไปจะคุ้นเคยกับพระนามว่า กรมหลวงสงขลานครินทร์ หรือ พระราชบิดา บางครั้งก็ปรากฏพระนามว่า เจ้าฟ้าทหารเรือ และ พระประทีปแห่งการอนุรักษ์สัตว์น้ำของไทย ส่วนชาวต่างประเทศเรียกพระนามว่า เจ้าฟ้ามหิดล โดยพระองค์ทรงสนพระทัยการแพทย์และการสาธารณสุข ตั้งแต่ครั้งยังดำรงตำแหน่งนายทหารแห่งกองทัพเรือสยาม ทรงเห็นว่าการแพทย์และการสาธารณสุขของไทยยังล้าสมัยอยู่มาก และทรงตระหนักว่าการสาธารณสุขมีส่วนสำคัญในการพัฒนาของประเทศ หากจะได้ผลดีต้องมีแพทย์ที่มีคุณภาพสูง และมีการศึกษาแพทย์ที่เหมาะสม จึงทรงพระอุตสาหะเสด็จไปศึกษาวิชาการสาธารณสุขและวิชาแพทย์ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทรงสอบได้ประกาศนียบัตรการสาธารณสุขและปริญญาแพทยศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตเกียรตินิยม จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

ซึ่งภายหลังทรงสำเร็จการศึกษา พระองค์ได้ทรงประกอบพระกรณียกิจทางด้านการแพทย์และการสาธารณสุขไว้มากมายจนเป็นที่ประจักษ์ และทรงได้รับการยกย่องเป็นองค์บิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย โดยวันที่ 24 กันยายน เป็นวันคล้ายวันเสด็จทิวงคตของพระองค์ท่าน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จึงได้ขนานนามวันอันเป็นที่ระลึกสำคัญนี้ว่า วันมหิดล เพื่อเป็นการถวายสักการะและแสดงกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ท่าน ที่ทรงพระราชกรณียกิจแก่วงการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศไทยตลอดระยะเวลา 12 ปี เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่โรงเรียนแพทย์และพัฒนาการเรียนการสอน ตลอดจนการผลิตแพทย์ให้มีประสิทธิภาพ เป็นการวางรากฐานแก่การแพทย์และการสาธารณสุขให้เจริญพัฒนาก้าวหน้าทัดเทียมอารยะประเทศ