ที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ที่ 7 บ้านดอนนาดี ตำบลบ้านขาม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นบ้านญาติของนายกิตติพงษ์ ไชยโก หนึ่งในแรงงานไทยจำนวน 15 คนที่เดินทางกลับมาบ้านในวันนี้ ซึ่งที่บ้านเลขที่ดังกล่าวมี นางหนูพันธ์ ไชยโก อายุ 60 ปี แม่ของบนายกิตติพงษ์ ไชยโก หนึ่งในแรงงานไทยที่เดินทางกลับประเทศไทยชุดแรก 15 คน พร้อมด้วย นายสมภาร วอหล้า ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนนาดี และเพื่อนบ้านอีกหลายคนมาร่วมกันติดตามข่าวการกลับมาของแรงงานไทย
เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังผ่านโทรทัศน์ด้วยความใจจ่อ จับตาดูทุกความเคลื่อนไหว ผ่านสื่อ นำโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพประวัติศาสตร์ชีวิตของการขายแรงงานเดินทางกลับ ด้วยความตื่นเต้นดีใจที่ลูกได้กลับมาโดยปลอดภัย โดยครอบครัว นางหนูพันธุ์ ไชยโก ผู้เป็นแม่สุขภาพไม่ดีจึงได้ให้ นายสมาน ไชยโก อายุ 62 ปี ผู้เป็นพ่อด้วยเดินทางไปรับลูกชายที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมทั้งได้ฝากเอาพระ ฝ้ายผูกข้อมือและสั่งกำชับว่าเมื่อลูกลงมาแล้วให้กอดรับเอาลูก ผูกแขนให้ลูก ได้รับความอบอุ่น
นอกจากนั้นนางหนูพันธุ์ ไชยโกยังกล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่จะได้เห็นลูกชายกลับมาและเตรียมที่จะรับขวัญโดยในวันนี้ได้ฝากฝ้ายผูกแขนจากทางบ้านให้พ่อถือไปเมื่อลูกลงจากเครื่องบินแล้วขอให้ผูกแขนรับขวัญลูกเลย กอดรับเอาลูกในทันที ส่วนการกลับมาบ้านแล้วก็จะมาทำพิธีการบายศรีสู่ขวัญอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่า ลูกจะได้เดินทางมาถึงบ้านในวันเวลาไหน ต้องรอโทรศัพท์ติดต่อกันอีกครั้งหนึ่ง
นางหนูพันธุ์ ยังกล่าวและเชื่อว่า ที่ลูกรอดชีวิตกลับมาด้วยความปลอดภัยนั้น เชื่อว่าเป็นบารมีของปู่หลักบ้านของบ้านดอนนาดี ที่เคารพของชาวบ้าน ก่อนเดินทางไปก็ได้นำเอาขัน 5 ไปกราบขอให้ท่านรักษาและก่อนวันเกิดเหตุ หลานที่ไปด้วยกันก็บอกว่า ในช่วงกลางคืนได้ฝันเห็นปู่ใส่ชุดขาวมาเข้าฝัน บอกว่า กลางคืนอย่านอนกันจะมีอันตรายให้พากันระวัง และจริงๆ แล้วทีแรกลูกชายจะไปหลบร่วมกับเพื่อนที่หลุมหลบภัยที่คนไทยถูกฆ่าตาย 6 คน แต่เพื่อนอีกคนบอกว่าไม่ต้องไป จึงได้อยู่อีกฝั่งหนึ่ง และเชื่อว่าที่รอดชีวิตมาได้อย่างปลอดภัย เพราะบารมีของหลวงปู่ประจำหมู่บ้าน
ในขณะที่นายสมพร คาระบุตร บ้านเลขที่ 165 ม.6 ต.หนองภัยศูนย์ อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู แรงงานจังหวัดหนองบัวลำภู อีกคนกำลังเดินทางกลับมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อกลับมายังจังหวัดหนองบัวลำภู ปิดบ้านเงียบไม่มีใครอยู่