ข่าวอัพเดทรายวัน

บุรีรัมย์พ่อแม่หนุ่มแรงงานยังเชื่อจะมีปาฏิหาริย์หลังลูกขาดการติดต่อกว่าสัปดาห์ล่าสุดมีชื่อโผล่เสียชีวิตแต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน

พ่อแม่หนุ่มแรงงานชาวบุรีรัมย์ ที่เป็นผู้สูญหายจากเหตุสู้รบในอิสราเอลติดต่อไม่ได้นานกว่า 1 สัปดาห์ ยังเชื่อจะมีปาฏิหาริย์พร้อมจุดธูปขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองลูก หลังล่าสุดมีรายชื่อเป็นผู้เสียชีวิต 1 ใน 3 ราย วอนให้ช่วยติดตามค้นหา จนกว่าจะมีหลักฐานยืนยันจากทางการไทยและอิสราเอลอย่างชัดเจน พ่อเผยวันสุดท้ายที่วีดีโอคอลคุยกับลูกชายเห็นวิ่งหลบเสียงปืนระเบิดต่อหน้าต่อตาก่อนสัญญาณขาดหาย

นายธนกร ยอดทองดี อายุ 64 ปี พร้อมด้วยนางรัญจวน ยอดทองดี อายุ 61 ปี พ่อและแม่ของนายเทียนชัย ยอดทองดี อายุ 32 ปี แรงงานชาวตำบลบ้านยาง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ได้จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือประจำบ้าน ให้ปกป้องคุ้มครองลูกชายที่ทำงานอยู่อิสราเอล เพราะเชื่อว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้จะไม่สามารถติดต่อได้มานานกว่า 1 สัปดาห์ และล่าสุดได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่ามีรายชื่อเป็นผู้เสียชีวิต 1 ใน 3 รายของจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการทั้งจากทางการไทยและอิสราเอล ทางครอบครัวจึงมีความหวังว่านายเทียนชัย ยังมีชีวิตอยู่ จึงวิงวอนขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยประสานติดตามและค้นหานายเทียนชัย และพากลับมาบ้านอย่างปลอดภัยด้วย ซึ่งครอบครัวจะรอจนกว่าจะมีการยืนยันหรือมีหลักฐานจากทางการไทยหรืออิสราเอลชัดเจนก่อน

นายธนกร และนางรัฐจวน พ่อและแม่ของ นายธนกร บอกว่า ลูกชายไปทำงานที่อิสราเอลได้ 2 ปีกว่าแล้ว ที่ผ่านมาติดต่อลูกได้ตลอดกระทั่งวันที่ 7 ต.ค. ก็คุยวีดีโอคอลคุยกับลูกชายตามปกติ แต่ขณะคุยกันอยู่ดีๆ ก็เห็นในโทรศัพท์ที่คอลคุยกันว่าลูกชายพยายามวิ่งหลบเสียงปืนและระเบิดก่อนที่สัญญาณจะขาดหายไปและติดต่อลูกชายไม่ได้อีก ก็คิดว่าลูกอาจจะซ่อนตัวหรือแค่ถูกจับตัวไป จึงพากันไปไหว้ขอพรพระละสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภาวนาขอให้ลูกปลอดภัย กระทั่งเช้าวันนี้มีเจ้าหน้าที่แจ้งว่าลูกชายมีรายชื่อเป็นผู้เสียชีวิต 1 ใน 3 รายแรงงานที่เสียชีวิตของจังหวัดบุรีรัมย์ ก็ตกใจกันทั้งครอบครัวแต่พอเขาแจ้งว่าแม้จะมีรายชื่อเป็นผู้เสียชีวิต แต่ต้องหลักฐานยืนยันจากทางการอิสราเอลอีกครั้ง ก็ทำให้ยังมีความหวังและเชื่อว่าลูกชายจะยังมีชีวิตอยู่ และก็ภาวนาให้ลูกปลอดภัย

ด้าน น.ส.นริสรา มาลี อายุ 29 ปี ภรรยานายเทียนชัย บอกว่า สามีไปทำงานที่อิสราเอลได้ 2 ปีกว่าแล้ว เดือน ม.ค. 67 ที่จะถึงนี้ก็จะครบ 3 ปี สาเหตุที่สามีตัดสินใจไปทำงานอิสราเอลเพราะได้ค่าแรงสูงกว่าไทย ล่าสุดได้ขยับขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกแพ็คสินค้าก็ได้ค่าแรงเพิ่มขึ้นอีก ก็ตั้งความหวังว่ากลับจากอิสราเอลครั้งนี้จะมีเงินสร้างบ้านเป็นของตัวเองเพราะทุกวันนี้ยังอาศัยอยู่ที่บ้านปู่กับย่า แต่พอทราบข่าวว่าสามีมีรายชื่อเป็นผู้เสียชีวิตก็รู้สึกใจหาย แต่พอเขาก็บอกว่าต้องรอการยืนยันจากทางการอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง ก็ทำให้มีความหวังอยู่ว่าสามีอาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็อยากให้ทางการช่วยติดตามหาสามีด้วย หากยังมีชีวิตก็อยากให้พากลับบ้านเพราะทุกคนยังรออยู่ โดยเฉพาะลูก 2 คนถามหาพ่อทุกวัน