ข่าวอัพเดทรายวัน

นครพนม ประกอบพิธีบวงสรวงศาลหลักเมือง ขอความเป็นสิริมงคลและความปลอดภัยให้ผู้มาร่วมงานไหลเรือไฟ ปี 2566

วันที่ 19 ตุลาคม 2566 ที่บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนจังหวัดนครพนมและสื่อมวลชน ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงกราบไหว้ศาลหลักเมือง บูชาเทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ให้ช่วยดลบันดาลความเป็นสิริมงคล ขอให้การจัดงานราบรื่นประสบความสำเร็จ ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานประเพณ๊ไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนม ประจำปี 2566 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 30 ตุลาคม 2566 มีแต่ความสุขและความปลอดภัย โดยในช่วงเย็นของวันนี้จะมีพิธีรำบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ที่นำโดย(กรีน) อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล และ (ญิ๋งญิ๋ง) ศรุชา เพชรโรจน์ ดารานักแสดงจากละครพนมนาคา ที่กำลังออกอากาศทางช่อง ONE

สำหรับงานประเพณีไหลเรือไฟจังหวัดนครพนมในปี 2566 นี้ ยังคงจัดที่ณบริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม และริมฝั่งแม่น้ำโขง เลียบถนนสุนทรวิจิตร เทศบาลเมืองนครพนมเช่นเดิม เพิ่มเติมคือความยิ่งใหญ่ตระการตาที่หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น โดยชาวจังหวัดนครพนมได้มีการบูรณาการความร่วมมือ สืบสานประเพณีอันเก่าแก่และงดงามในช่วงเทศกาลวันออกพรรษาตามความเชื่อและศรัทธา ที่ว่าการไหลเรือไฟเป็นการบูชารอยพระพุทธบาท ที่พระพุทธองค์ประทับไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมเทศนา โปรดพญานาคที่เมืองบาดาล รวมถึงเป็นการระลึกถึงพระคุณของแม่น้ำโขง ที่ทุกคนได้ใช้หล่อเลี้ยงชีวิต ทั้งเป็นการขอขมาในสิ่งที่ได้ล่วงเกินลงไป ซึ่งปีนี้มีการจัดสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ขึ้นมาทั้งสิ้น 15 ลำ ๆ ที่มีขนาดใหญ่สุดคือยาว 79 เมตร ส่วนตะเกียงที่ใช้ประดับเรือไฟเพื่อให้เกิดเป็นลวดลายที่สวยงามตามการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละลำที่มีการสอดแทรกเรื่องราววิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ ความศรัทธา สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ของดีของเด่นในชุมชน ตลอดจนการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยมีการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เข้ามาเสริมสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมกลางสายน้ำ โดยในการไหลเรือไฟจะมีให้ชมทุกวัน วันที่มากสุดคือวันที่ 29 ตุลาคม 2566

นอกจากนี้ผู้ที่มาก่อนวันออกพรรษา ยังจะมีโอกาสได้ชมการแสดงบินโดรนแปรอักษรและรูปภาพที่เป็นการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นจังหวัดนครพนมบนท้องฟ้าที่จะมีทั้งข้อความ พระธาตุพนม เรือไฟ และพญาศรีสัตนาคราช หรือถ้าประชาชนและนักท่องเที่ยวอยากร่วมกิจกรรมทำกระทงเรือไฟจากกาบกล้วย เพื่อสะเดาเคราะห์ต่อชะตาตามปีเกิด เสริมบุญบารมีและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถเข้าร่วมได้ที่บริเวณกิจกรรมเรือไฟโบราณ ที่เมื่อประกอบพิธีในวันออกพรรษาเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะนำไปลอยกลางแม่น้ำโขงให้ทุกคน ขณะเดียวกันก็ยังมีพิธีรำบูชาองค์พระธาตุพนม พิธีการอัญเชิญไฟพระฤกษ์ ขบวนแห่ปราสาทผึ้ง การแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้าน การแสดงโชว์เรือกีบหนีบกันพายที่เป็นการว่ายน้ำในแม่น้ำโขงเพื่อแปรขบวนเป็นรูปต่าง ๆ การแสดงยุทธวิธีทางน้ำ การแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง กิจกรรมพาข้าวแลง การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การทำบุญตักบาตรเทโว การร่วมสนุกและทำบุญกับกิจกรรมมัจฉากาชาด ที่มาออกบู๊ททำกิจกรรมในระหว่างวันงาน เพื่อหารายได้ไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ ตลอดจนการเลือกหาสินค้าถูกใจ ทั้ง เครื่องแต่งกาย สินค้าอุปโภค บริโภค สินค้าพื้นถิ่น ผลิตภัณฑ์ชุมชน