วันที่ 24 ต.ค. 2566 นายสุวิทย์ จันทร์หวร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู มอบหมายให้ นายนิติปกรณ์ แสงสุวรรณ นายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตำบลบ้านพร้าว อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อส่งความห่วงใยให้แรงงานชาวหนองบัวลำภู ที่เดินทางกลับจากอิสราเอล เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบ พร้อมประเมินสภาพจิตใจเพื่อให้คลายความกังวลและหวาดผวาจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยศูนย์ติดตามและช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล จังหวัดหนองบัวลำภู ได้รับแจ้งจาก กลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอเมืองหนองบัวลำภู ว่ามีแรงงานที่กลับจากอิสราเอลได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่จำนวน 2 ราย


จากการลงพื้นที่พบ นายราเชนทร์ ริพิมพ์ อายุ 31 ปี (อยู่ห่างจากฉนวนกาซา 35 กิโลเมตร) เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 ซึ่งไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อแจ้งความประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย แต่มีประสงค์จะเดินทางกลับ จึงได้รับการช่วยเหลือจากนายจ้างในการอำนวยความสะดวกให้เดินทางกลับ โดยนายราเชนทร์ฯ เล่าว่ายังคงมีคนไทยที่อยู่ด้วยกันอีก 5 คน ที่ยังรอประเมินสถาการณ์ที่จะกลับภูมิลำเนา โดยตนเองทำงานที่อิสราเอลมา 4 ปีเศษแล้ว และเห็นว่าสถานการณ์รุนแรงกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา จึงได้ตัดสินใจเดินทางกลับ
และอีกรายคือ นายสุปัญญา เคนคำ อายุ 32 ปี (อยู่ห่างฉนวนกาซา 20 กิโลเมตร) เดินทางถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2566 เล่าว่าเหตุความไม่สงบในครั้งนี้รุนแรงมากที่สุดใน 4 ปีที่ตนอยู่มา ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพื่อนคนไทยที่ทำงานด้วยกันเดินทางกลับมาแล้ว 7 คน ที่เหลืออยู่ระหว่างการเดินทางกลับมา โดยทั้งสองรายกล่าวว่า จะไม่เดินทางกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกแล้ว และตอนนี้คงจะทำไร่ทำนาช่วยที่บ้านในระหว่างฤดูเกี่ยวข้าว ในขณะที่มารดาของทั้งสองรายกล่าวว่า การกลับมาของลูกในครั้งนี้ ถือเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด หลังจากกินไม่ได้นอนไม่หลับหลายวัน
ในขณะที่ลงพื้นที่ กำนันตำบลบ้านพร้าว ได้แจ้งว่า ยังมีกรณีที่ยังไม่สามารถติดต่อได้ (ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566) เพิ่มอีกหนึ่งราย คือ นายเสถียร สุวรรณคำ อายุ 34 (อยู่ใกล้ฉนวนกาซาราว 2 กิโลเมตร) ซึ่งคุณแม่ของแรงงานคนดังกล่าวมีอาการวิตกกังวล ร้องไห้ทุกวัน กินข้าวไม่ได้ และนอนไม่หลับ ผู้เชี่ยวชาญต้องเข้าประเมินสภาพจิตใจโดยด่วน ในขณะที่นายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู นำความห่วงใยของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ไปให้ครอบครัวแรงงานทั้งสามกรณี พร้อมให้แนวทางในการฝึกอาชีพกับทางสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดหนองบัวลำภู และจะติดตามทุกกรณีอย่างใกล้ชิด