ข่าวอัพเดทรายวัน

ตำรวจรับไม้ต่อ ปปช. จ่อฟันข้าราชการเอี่ยวขายไม้พะยูงที่ราชพัสดุ

ผู้การกาฬสินธุ์ เผย ปปช.ส่งสำนวนคดีไม้พะยูงหายที่เทศบาลตำบลอิตื้อ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ กลับมาให้พนักงานสอบสวนพิจารณา เบื้องต้นพบความผิดซื้อขายไม้จริง พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบสำนวนด้วยตนเอง ก่อนส่งสำนวนต่ออัยการทุจริตเอาผิดข้าราชการมีเอี่ยว ขณะที่กรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนหลายแห่ง อยู่ระหว่างการสืบสวนขององค์กรอิสระ และยังไม่มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์


จากกรณีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อนมูลค่า 1 ล้านบาท หายไปจากหน้าเสาธง เทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา หลังถูกคนร้ายเข้าไปลักลอบตัดที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ ในคืนวันที่ 25 ก.ค.66 และต่อมาชาวบ้านได้แจ้งเบาะแสพบการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนหลายแห่ง เช่นที่ โรงเรียนคำไฮวิทยา โรงเรียนหนองโนวิทยาคม จำนวนหลายต้น ท่ามกลางข้อสงสัยในสาเหตุการตัดไม้พะยูงขาย และราคาขายที่ต่ำผิดปกติ เรียกร้องให้ทางจังหวัด ร่วมทั้งองค์กรอิสระลงพื้นที่ตรวจสอบ ถึงความไม่โปร่งใส และเชื่อว่าทำเป็นขบวนการ ลักษณะของการ “ฟอกขาว” ตามข่าวที่เสนอแล้วแล้ว


ล่าสุดวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ที่สำนักงานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรณีไม้พะยูงของกลางหายไปจากหน้าเสาธง เทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ต่อเนื่องถึงกรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนหลายแห่งนั้น สามารถแยกได้เป็น 2 กรณี คือกรณีไม้พะยูงหายที่เทศบาลตำบลอิตื้อนั้น เริ่มจากเกิดเหตุคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูง ที่สถานีเพาะชำกล้าไม้กาฬสินธุ์ ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด 1 ต้น คนร้ายตัดส่วนของลำต้นไปประมาณ 3 เมตร ต่อมาเจ้าหน้าที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ฯ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง จากนั้นพนักงานสอบสวนร่วมกับผู้นำชุมชน ทำการตรวจยึดไม้ของกลางที่เหลือ โดยตัดทอนเป็นท่อนจำนวน 7 ท่อน มาเก็บไว้หน้าเสาธง สำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. มีการจัดเวรยามก่อนที่ไม้พะยูงของกลางจะหายไป ในคืนวันที่ 5 ส.ค.66 ต่อมาเจ้าหน้าที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ฯ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสูงเป็นครั้งที่ 2 และมีการดำเนินการติดตามสืบสวน สอบสวน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

“กระทั่งพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง สรุปสำนวนคดีสั่งฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ ระบุมีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายก ทต.อิตื้อ, คนขับรถนายก ทต.อิตื้อ, เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 3 คน กำนันและผู้ใหญ่บ้าน 3 คน รวม 8 คน โดยส่งสำนวนไปที่ ป.ป.ช. จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 22 ส.ค.66 ล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ ทราบจากพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูงเจ้าของคดีว่า ทาง ปปช.ได้ส่งสำนวนคดีดังกล่าว กลับมาที่สภ.โนนสูง เพื่อดำเนินการพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนก็จะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสำนวนด้วยตนเองในลำดับต่อไป ทั้งนี้เบื้องต้นทราบว่า ปปช.มีความเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ร้ายแรง และมีการซื้อขายไม้ของกลางไปจริง ซึ่งหลังจากตรวจสอบแล้วก็จะได้ส่งสำนวนส่งอัยการทุจริตในลำดับต่อไป” พล.ต.ต.ตรีวิทย์กล่าว

พล.ต.ต.ตรีวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุนั้น ทราบว่าวันที่ 17 ส.ค.66 ชาวบ้านได้มีการแจ้งเหตุผ่าน กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ มีการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จำนวน 17 ต้น ตรวจพบเอกสารประกอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ระบุมีหนังสือโต้ตอบระหว่างโรงเรียนฯ-สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 และธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ เรื่องขออนุญาตตัดและให้อนุญาตตัดไม้พะยูงจำหน่าย จำนวน 22 ต้น กับอีก 2 ตอ จำนวนเงิน 153,000 บาท

“ต่อมา ยังมีชาวบ้านแจ้งเบาะแสการตัดไม้พะยูงมาที่ กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยตัดไม้พะยูงในโรงเรียนหนองโนวิทยาคม ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ยังพบว่ามีพฤติการณ์ลักษณะเดียวกัน บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเหมือนกันกับกรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 เม.ย.66 ไม้พะยูงถูกตัดขาย 9 ต้น ราคา 104,000 บาท นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งเหตุ ตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 3 ต้น ราคา 30,000 บาทในช่วงเดือน ก.ย.66 ยังมีการแจ้งเบาะแสการตัดไม้พะยูง รวมทั้งเหตุลักลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียน และในที่ราชพัสดุอีกหลายครั้ง” พล.ต.ต.ตรีวิทย์ย้ำ

พล.ต.ต.ตรีวิทย์กล่าวในตอนท้ายว่า กรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนต่างๆ ดังกล่าว ทราบว่าอยู่ในระหว่างการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานระดับจังหวัดและ ปปช. รวมทั้งองค์กรอิสระ อย่างไรก็ตาม หาก ปปช.รวบรวมสำนวนเสร็จสิ้น หรือต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปร่วมติดตามคดีด้วยก็สามารถทำได้ แต่ตั้งแต่เกิดเหตุ ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจแต่อย่างไร ทั้งนี้ ขอฝากถึงพี่น้องประชาชน ร่วมเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวัง การตัดไม้ในที่ราชพัสดุ และฝากเตือนว่าการตัดไม้พะยูงหรือไม้หวงห้ามในที่ราชพัสดุนั้นเป็นเรื่องที่พึงระวังและต้องสมเหตุสมผล จึงจะสามารถตัดได้โดยไม่ผิดกฎหมาย