เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีของเกษตรผู้ปลูกข้าวในเขต จ.ขอนแก่น เนื่องจากขณะนี้ทุกพื้นที่เริ่มทำการเกี่ยวข้าวและตากข้าวหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งก็ยังพบว่า ริมถนนสายต่างๆในพื้นที่ชุมชนหมู่บ้าน ยังคงมีการตากข้าวเปลือกกันเช่นเดิม นอกจากนี้ยังพบว่า พื้นที่หน้า อบต.โรงเรียน รวมถึงลานวัด ก็ยังเป็นสถานที่ ในการตากข้าวเปลือกของชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย เช่นเดียวกันกับ ที่ลานวัด วัดสว่างบ้านห้วยโจด หมู่ 11 ต.ห้วยโจด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น พบว่าเกษตรกร กว่า 10 ราย นำข้าวเปลือกมาตากจนเต็มลานวัด บางรายข้าวแห้งแล้วก็จัดเก็บใส่กระสอบ เพื่อนำไปเก็บยังยุ้งฉาง









น.ส. สุดใจ คำอินทร์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 186 ม.3 บ้านห้วยโจด ต.ห้วยโจด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น กล่าวว่า หลังการเก็บเกี่ยวข้าวจากท้องนา ข้าวเปลือกจะมีความชื้น จึงต้องนำมาตาก ซึ่งในพื้นที่บ้านห้วยโจดนั้น สามารถตากข้าวเปลือกได้ในพื้นที่โรงเรียน อบต.และวัด เป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ไม่ให้เอาข้าวไปตากบนถนน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะนำข้าวเปลือกมาตากที่วัด ตากคนละ 2-3 แดด โดยเมื่อตากข้าวแล้ว ทุกคนต้องเฝ้าข้าวของตัวเอง เมื่อข้าวแห้งก็เก็บใส่กระสอบ นำกลับบ้านเพื่อที่คนต่อไปจะได้มาตากต่อ
“วัด ได้เปิดพื้นที่ลานวัดให้แก่ชาวบ้านนำข้าวมาตากเป็นประจำทุกปี เพื่อที่ชาวบ้านจะไม่ต้องนำข้าวเปลือกไปตากบนถนน ซึ่งเสี่ยงอันตรายแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ทั้งเสี่ยงที่ข้าวจะถูกขโมยได้ง่ายอีกด้วย”
น.ส.สุดใจ กล่าวต่ออีกว่า ชาวบ้านและทางวัดจึงได้มีการพูดคุยและตกลงร่วมกันว่า จะใช้พื้นที่ลานวัดตากข้าวเป็นประจำทุกปี โดยไม่มีการเก็บเงินแต่อย่างใด แต่เมื่อข้าวแห้งจนสามารถเก็บใส่กระสอบได้แล้ว จะยกข้าว 1 กระสอบให้แก่ทางวัดด้วยความสมัครใจ เพื่อเป็นการตอบแทนทางวัดที่ให้พื้นที่ในการตากข้าว ทั้งเมื่อทุกคนตากข้างจนหมดแล้ว ชาวบ้านที่นำข้าวมาตากที่วัด จะมาช่วยกันล้างทำความสะอาดลานวัด ให้กลับมาสะอาดดังเดิม โดยทุกคนต่างเต็มใจมาช่วยกันโดยไม่ต้องจ้างแรงงาน