บุรีรัมย์สุดสะเทือนใจ น้านั่งร้องไห้แทบขาดใจศพหลานชาย ม.2 นักกีฬาเยาวชนระดับชาติที่ขี่ จยย.ชนกระบะคอหักดับคาซากรถ ขณะขับ จยย.จะไปทำความสะอาดเมรุเพื่อเผาศพน้าอีกคนช่วงบ่าย ส่วนคนขับกระบะเผยขณะเลี้ยวรถกลางถนนจะกลับมาเติมน้ำมันมองไม่เห็น จยย.
เมื่อเวลา 06.40 น. (6 ม.ค.67) พ.ต.ท.อภิชา เตียงประโคน สารวัตร (สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ มีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย จึงประสานแพทย์เวร รพ.เฉลิมพระเกียรติ พร้อมด้วยกู้ชีพเทศบาลตำบลพนมรุ้งและกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุดอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง
ที่เกิดเหตุอยู่เป็นถนนสายบ้านดอนไม้ไฟ-ตะโก ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ-แดง หมายเลขทะเบียน 1 กจ 2364 บุรีรัมย์ ในสภาพพังเสียหายเบาะหลุดออกจากตัวรถโดยมีร่าง ด.ช ฤทธิ์ชพล รุจิกลิ่น หรือน้องพี อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 และเป็นนักกีฬาประจำโรงเรียนเสียชีวิตติดคาซากรถ จยย. ในสภาพแขน ขา และคอหัก ใกล้กันพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีดำ หมายเลขทะเบียน ยข 1330 นครราชสีมา คู่กรณีที่ชนกับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จอดยอยู่ในสภาพด้านข้างซ้ายมีรอยยุบเสียหาย
ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ พ่อแม่และญาติของน้องพี ที่ชนกับรถกระบะเสียชีวิต ก็ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ ทันทีที่เห็นร่างของน้องพีต่างก็พากันร้องไห้โฮ โดยเฉพาะนายวินัย ดอนแก้วพู่ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นน้า ที่เลี้ยงน้องมาตั้งแต่เด็กรักและผูกพันกันมาก ถึงกับเข่าทรุดร้องไห้แทบขาดใจข้างศพหลานชาย ทั้งใช้ลูบศรีษะและจับมือหลานด้วยความอาลัย ซึ่งน้องพี เป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว เพราะตัวแทนนักกีฬาประจำโรงเรียน เคยแข่งเทควันโด กีฬาเยาวชนแห่งชาติ รอบคัดเลือก ได้รางวัลชนะเลิศ ที่สำคัญวันนี้จะมีพิธีฌาปนกิจศพน้าของน้องพี อีกคนซึ่งเป็นน้องชายของแม่ และน้องพี กำลังจะขับรถจักรยานยนต์ไปทำความสะอาดเมรุที่วัด เพื่อเตรียมประกอบพิธีฌาปนกิจศพตอนบ่าย แต่กลับมาเจอเหตุการณ์เศร้าสลดซ้ำอีก
จากการสอบถามนางสองเมือง ดอนแก้วพู่ อายุ 52 ปี แม่น้องพี เล่าทั้งน้ำตาว่า ตอนเช้าช่วงประมาณ 6 โมงกว่า ได้บอกให้น้องพี ไปทำความสะอาดเมรุที่วัดบ้านตะโก เพราะวันนี้จะมีพิธีฌาปนกิจศพ น้าน้องพี ซึ่งเป็นน้องชายของแม่ ที่เพิ่งเสียชีวิตด้วยอาการป่วย เมื่อวันที่ 4 ม.ค.67 ที่ผ่านมา และจะเผาช่วงบ่ายวันนี้ แต่ลูกชาย ยังไปไม่ทันถึงวัด ก็มาเกิดอุบัติเหตุชนกับรถกระบะเสียชีวิตเสียก่อน เสียใจมากเพราะน้องพีเป็นลูกชายคนเดียว
ด้านนายประสพ พิพวนนอก อายุ 57ปี คนขับรถกระบะคู่กรณีซึ่งไม่ได้หลบหนีไปไหนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงเช้าได้ขับรถกระบะมากับแม่วัย 79 ปี เพื่อไปส่งตะไคร้ที่ตลาดในตัวอำเภอนางรอง และกำลังจะกลับบ้าน แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุก็ได้จะวนรถกลับไปเติมน้ำมันที่ปั้มซึ่งขับเลยมา แต่จังหวะที่เลี้ยวจะวกรถกลับรถจักรยานยนต์ก็พุ่งชนด้านข้างอย่างแรง ซึ่งตอนนั้นตนไม่เห็นว่ามีรถวิ่งมาจนกระทั่งได้ยินเสียงดังโคร่มว่ามีรถชนด้านข้างจึงจอดแล้วลงไปดู ก็พบมีรถ จยย.ชนด้านข้างและมีผู้เสียชีวิตติดอยู่กับซากรถ จยย.
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐาน และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และพยานที่เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป