สองหนุ่มชาว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ นำคลิปหลักฐานขณะถูกตำรวจประมาณ 10 นาย รุมทำร้ายร่างกายทั้งเตะกระทืบจนสลบ ขณะยืนรอเพื่อนที่ไปเที่ยวคอนเสริ์ตจนสลบถูกหามส่ง รพ. ร้องขอความเป็นธรรมและรับผิดชอบ แฟนสาวเข้าไปช่วยโดนกระชากนาฬิกาขาด ชี้ทำเกินกว่าเหตุ ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องวิวาทย์
(16 ก พ 67) นายกิตติพัฒน์ หรือนัท อายุ 30 ปี และนายอังกูร หรือโจ้ อายุ 22 ปี ชาวอำเภอปะคำ จ.บุรีรัมย์ ได้นำคลิปหลักฐานขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แห่งหนึ่งประมาณ 10 นาย รุมทำร้ายร่างกายทั้งเตะกระทืบจนสลบ ขณะยืนรอเพื่อนที่ไปเที่ยวชมคอนเสริ์ตในงานประจำปีของอำเภอนางรอง เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 13 ก.พ.67 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นคืนสุดท้าย จนนายกิตติพัฒน์ หรือนัท สลบศรีษะปูดโน และมีรอยเขียวช้ำทั้งใบหน้า ลำตัว ถูกนำตัวส่ง รพ.นางรอง ส่วนนายอังกูร หรือโจ้ ก็ถูกเจ้าหน้าที่กระทืบที่บริเวณหน้าท้องหลายครั้งมีอาการเจ็บจุกที่ท้อง แถมทำร้ายเสร็จยังถูกนำตัวใส่รถควบคุมผู้ต้องหาไปที่โรงพัก ก่อนจะปล่อยตัวกลับบ้าน
นอกจากนี้ น.ส.เอ (นามสมมติ) แฟนของนายอังกูร หรือโจ้ ซึ่งพยายามจะเข้าไปช่วยแฟนหนุ่มที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้าย ก็โดนกระชากแขนอย่างแรงจนนาฬิกาขาด จึงได้พากันออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมกันรุมทำร้าย ออกมาขอโทษและแสดงความรับผิดชอบ เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ เนื่องจากไม่ได้มีเหตุทะเลาะวิวาทย์กับใครแต่กลับถูกเจ้าหน้าที่รุมทำร้าย
นายกิตติพัฒน์ หรือนัท (เสื้อคอกลมสีขาว) เล่าว่า คืนวันที่ 13 ก.พ.67 ตนกับเพื่อนได้ไปเที่ยวชมคอนเสริ์ตในงานประจำปีที่อำเภอนางรองรวม 9 คน ก็ไปเที่ยวตามปกติไม่ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทย์หรือชกต่อยกับใครเลย กระทั่งประมาณเที่ยงคืนคอนเสริ์ตจบ ก็เดินออกมาที่ซุ้มประตูทางออก แต่ขณะยืนรอเพื่อนและน้องๆ ที่ไปด้วยกัน เพื่อจะกลับบ้านพร้อมกัน ก็มีตำรวจนายหนึ่งพูดว่า “พวกมึงรอ…อะไรกันทำไมไม่กลับบ้าน” ตนก็เลยบอกว่ารอน้องรอเพื่อน แล้วก็พูดกับตำรวจนายดังกล่าวว่าทำไมไม่พูดดีๆ ทำไมต้องพูดคำหยาบ พอพูดจบตำรวจนายหนึ่งก็มากระชากตนล้มลง จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่อีกประมาณ 10 นายมารุมทำร้ายทั้งเตะทั้งกระทืบจนตนสลบ ไปรู้สึกตัวอีกทีเนื่องจากมีตำรวจที่ไม่ได้ร่วมทำร้ายด้วยพาส่ง รพ. ยืนยันว่าคืนเกิดเหตุไม่ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทย์กับใครเลยและไม่ได้ทำอะไรผิด แต่กลับถูกตำรวจรุมทำร้ายบาดเจ็บ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่รุนแรงเกินเหตุ อยากให้ออกมาขอโทษและแสดงความรับผิดชอบ
ด้านนายอังกูร หรือโจ้ (เสื้อคอกลมสีดำ) ยืนยันว่าคืนนั้นไม่ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทย์กับใคร แต่ น.ส.เอ แฟนสาวของตนเองจะเข้าไปช่วยนายกิตติพัฒน์ รุ่นพี่ที่กำลังถูกตำรวจรุมทำร้าย แต่ตนเห็นแฟนถูกตำรวจกระชากแขนอย่างแรงจนนาฬิกาขาด จึงจะเข้าไปห้ามและพูดบอกเจ้าหน้าที่ว่าอย่าทำร้ายผู้หญิง แต่กลับถูกตำรวจด่ากลับด้วยถ้อยคำหยาบคาย และยังรุมกระทืบที่ท้องจนมีอาการเจ็บจุกอย่างแรง แถมยังเอาตัวใส่รถควบคุมผู้ต้องหาไปที่โรงพักแล้วก็ปล่อยตัวกลับ มองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุก็อยากให้ตำรวจชี้แจงและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะพวกตนไม่ได้ทำอะไรผิด
ขณะที่ น.ส.นางสาววันวิสา หรือเพ็ญ อายุ 25 ปี (เสื้อแดงขาว) เล่าว่า หลังจากดูคอนเสริ์ตจบก็ ทยอยเดินออกมารอที่ประตูทางออกเพื่อรอน้องๆ ที่ไปด้วยกัน แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาไล่ให้กลับบ้านแต่พวกตนก็บอกไปว่ายืนรอน้อง แต่ตำรวจกลับบอกว่าพวกมึงชอบก่อความวุ่นวาย จากนั้นตำรวจก็รุมทำร้ายแฟน ตัวเองพยายามจะเข้าไปห้ามตำรวจก็มากระชากแขน ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจรุนแรงเกินกว่าเหตุ ถ้ากลุ่มพวกตนไปมีเรื่องวิวาทย์ชกต่อยก็จะไม่ติดใจอะไร แต่นี่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยกลับถูกทำร้ายจนสลบมันก็รุนแรงเกินไป อยากให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการโทรศัพท์ไปสอบถามทางตำรวจเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ยังไม่มีการชี้แจงใดๆ บอกเพียงว่าก็ต้องตรวจสอบตามขั้นตอนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร