จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 11.50 น. วันนี้ (5 เม.ย.67) ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าของการรถไฟว่า พบเห็นโครงกระดูกมนุษย์ถูกไฟคลอกอยู่ริมทางรถไฟ ห่างจากสถานีรถไฟอำเภอศีขรภูมิ มุ่งหน้าตัวเมืองสุรินทร์ ประมาณ 500 เมตร อยู่ในเขตพื้นที่บ้านระแงงใต้ ม.10 ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ห่างจากตัววัดศรีวิหารเจริญ ที่พระอภิสิทธิ์ สังกัดอยู่ประมาณ 3-4 กม. พร้อมกับมีกลิ่นเห็นเน่าคลุ้งไปทั่วบริเวณโดยรอบ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบจุดดังกล่าวทันที


โดยจุดที่พบศพนั้น ก็เป็นจุดที่ทีมค้นหาเคยเดินผ่านมาแล้ว แต่ ณ ตอนนั้น ริมทางรถไฟยังคงมีป่าหญ้าขึ้นสูงและรกมา แต่ตอนนี้ป่าหญ้าข้างทางรถไฟถูกไฟไหม้ คาดว่าอาจจะเกิดจากธรรมชาติ เลยทำให้เห็นศพ
ทั้งนี้ ยังไม่ยืนยัน 100% ว่าเป็นศพของพระมหาอภิสิทธิ์ที่หายตังไปตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 67 หรือไม่ เพราะสภาพศพถูกไฟคลอกจนเหลือแต่โครงกระดูก ต้องรอผลชันสูตรให้แน่ชัดอีกครั้ง แต่ถ้าเกิดเป็นศพของพระมหาอภิสิทธิ์ จริงก็คาดว่า น่าจะเสียชีวิตมาได้ประมาณ 4-5 วันแล้ว เพราะศพส่งกลิ่นเหม็นมากๆ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ก็ยังคงต้องรอผลชันสูตรเช่นกัน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า พระมหาอภิสิทธิ์ เป็นลมพระอากาศร้อน หรือว่าเข้าไปนอนหลบแดดในโพรงหญ้าจนเกิดไฟคลอก หรืออาจจะถูกรถไฟชนกันแน่
ล่าสุดวันที่ 7 เมษายน2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่วัดศรีวิหารเจริญ ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ขอพบพระมหาเจริญสุข คุณะวีโร เจ้าอาวาสวัดศรีวิหารเจริญแต่ไม่พบ ท่านได้ออกกิจนิมนต์ต่างอำเภอ ผู้สื่อข่าวพบกับพระธนภรณ์ ใจงาม(พระลูกวัดที่คอยดูแลพระมหาอภิสิทธิ์ยามป่วย) ได้พาผู้สื่อข่าวไปที่ศาลาอาคารครึ่งปูนครึ่งไม้ 2ชั้น ที่เป็นที่พักจำวัดของพระมหาอภิสิทธิ์ โดยได้นำไปดูห้องนอนของพระมหาอภิสิทธิ์ ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ซึ่งได้มีแม่กุญแจคล้องอยู่และมีบาตรของพระมหาอภิสิทธิ์คว่ำอยู่หน้าประตู โดยพระมหาเจริญสุข คุณะวีโร เจ้าอาวาสวัดศรีวิหารเจริญได้สั่งไว้ว่าห้ามใครเข้าไปเปิดเพราะกลัวทรัพย์สินของมีค่าของพระมหาอภิสิทธิ์นั้นจะหาย จึงได้แต่พูดคุยกันหน้าห้องนอนของพระอภิสิทธิ์เท่านั้น
พระธนภรณ์ ใจงาม(พระลูกวัดที่คอยดูแลพระมหาอภิสิทธิ์ยามป่วย) เล่าว่า ตนนั้นยังไม่แน่ใจเชื่อยังคง 50 /50 อยู่กับร่างที่ถูกไฟคลอก พร้อมกับภาวนาขออย่าให้เป็นร่างพระมหาอภิสิทธิ์ ซึ่งบริเวณที่พบร่างที่ไหม้นั้น ทางตนได้นำชาวบ้าน กู้ภัย ออกสำรวจตามหาพระอภิสิทธิ์ถึง 2 ครั้งแต่ไม่พบ ซึ่งต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอจากโรงพยาบาลประมาณ 1 เดือน ถึงจะรู้ผลว่า ใช่หรือไม่ใช่ โดยเมื่อช่วงวานนี้ (5 เม.ย.) ทางโยมพ่อแม่ของพระมหาอภิสิทธิ์ นั้นได้เข้ามาหาพระมหาเจริญสุข คุณะวีโร เจ้าอาวาสวัดศรีวิหารเจริญ ซึ่งทางตนไม่รู้ว่ามาเรื่องอะไร แต่ทราบเพียงว่าโยมพ่อแม่ของพระมหาอภิสิทธิ์นั้นได้นำเลือดให้กับโรงพยาบาลเพื่อตรวจผลหาดีเอ็นเอว่าจะตรงกันไหมกับร่างศพปริศนา และทางญาติของพระมหาอภิสิทธิ์นั้นก็ทราบมาโดยตลอดว่าพระมหาอภิสิทธิ์นั้นมีอาการป่วยมาตลอด ซึ่งตนรู้มาแค่นี้เท่านั้น และวานนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้ามาพูดคุยกับทางพระมหาเจริญสุข คุณะวีโร เจ้าอาวาสวัดศรีวิหารเจริญ
หลังจากนั้นทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรศีขรภูมิเพื่อจะขอเข้าพบกับ พ.ต.อ. กรธัช อู๊ดเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรศีขรภูมิเพื่อสืบถามถึงความคืบหน้าของคดี แต่ด้วยวันนี้เป็นวันอาทิตย์จึงไม่พบและได้ติดต่อไปทางโทรศัพท์แต่ไม่มีการรับสาย จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง ร.ต.อ.หญิง จิราพร โสดแก้ว พงส.ฯสภ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ (เจ้าของคดี) แต่ก็ไม่ได้รับสายเช่นกัน