เมื่อเวลา เวลา 11.00 น.วันที่ 20 เมษายน ผู้สื่อข่าวได้ทราบว่า มีเหตุหลานชายวัย 16 ปี ใช้ท่อนไม้ฟาดไปที่ศีรษะของตาแท้ ๆ จนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส สลบคาที่ ที่บริเวณทุ่งนา บ.หายโศก ม.16 ต.หายโศก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ต่อมาญาติเร่งนำส่งโรงพยาบาลบ้านผือโดยด่วน อาการยังคงโคม่ามีเลือดคลั่งในสมอง และได้นำส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี ในเวลาต่อมา





เหตุเนื่องมาจากก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 เมษายน ศูนย์วิทยุกู้ชีพ อบต.หายโศก ได้รับแจ้งเหตุมีคุณตาถูกหลานชายใช้ไม้ฟาดศีรษะจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณทุ่งนา บ.หายโศก ม.16 ต.หายโศก อ.บ้านผือ หลังรับแจ้งจึงเร่งไปให้การช่วยเหลือ นำส่ง รพ.บ้านผือ และนำส่งต่อ รพ.ศูนย์อุดรธานี เนื่องจากมีอาการเลือดคลั่งในสมอง ต้องเร่งรักษาด้วยแพทย์ชำนาญการโดยด่วน ทราบชื่อผู้บาดเจ็บภายหลังว่า นายวิรัตน์ แก้วโม้ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.16 ต.หายโศก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายปฏิพัทธ์ วงแสนสุข หรือเก้า อายุ 16 ปี หลานชายแท้ๆของนายวิรัตน์ฯ นั่นเอง


ต่อมา พ.ต.ท.ศราวุธ ลือคำหาญ สว.สอบสวน สภ.บ้านผือ หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบรุดตรวจสอบที่พื้นที่ที่เกิดเหตุพร้อมด้วย ร.ต.อ.สมศักดิ์ ดุจพายัพ รอง สว.สส.และตำรวจชุดสืบสวน พบของกลางเป็นท่อนไม่ไผ่ยาวประมาณ 87 ซม. 1 ท่อน ใกล้กันพบรถยนต์กระบะแคป โตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บพ 4260 อุดรธานี กระจกฝั่งคนขับถูกทุบจนแตกเสียหายทั้งบาน โดยมีนายณัฐพนธ์ บุญเลิศ อายุ 38 ปี หลานเขยนายวิรัตน์ฯ ผู้แจ้งเหตุนำตรวจสอบ พร้อมทั้งให้การว่า ตนมีบ้านอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงตาหลานด่ากันเสียงดัง แล้วเสียงก็เงียบไป ตนเอะใจจึงเดินมาดู ก็เห็นนายวิรัตน์ฯ นอนสลบอยู่ จึงรีบโทรแจ้งกู้ชีพมารับตัว ส่วนผู้ก่อเหตุมั่นใจว่าเป็นนายเก้าแน่นอน เพราะเคยอาละวาดขอเงินตาไปซื้อยาบ้าเสพบ่อยครั้ง จนตาต้องหนีไปอยู่บ้านญาติ ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 20 เม.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัวนายปฏิพัทธ์ฯ ได้บนถนนระหว่างหมู่บ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุ 3 กม.แล้วควบคุมตัวไปทำการสอบสวน
พ.ต.ท.ศราวุธ ลือคำหาญ เปิดเผยว่า (โทรศัพท์) จากการสอบสวนพบว่านายปฏิพัทธ์ฯ อยู่กับนายวิรัตน์ฯ ผู้เป็นตา 2 คน พ่อแม่แยกทางกัน แม่ไปทำงานอยู่ต่างประเทศ เป็นคนเกเรไม่เรียนหนังสือ ติดยาเสพติด มักอาละวาดขอเงินตาไปซื้อยาเสพติด เมื่อขอไม่ได้ก็ทำร้ายร่างกาย จนตาต้องหนีไปอาศัยบ้านญาติหลังอื่น ก่อนเกิดเหตุนายวิรัตน์ฯ ได้ขับรถกระบะนำเครื่องตัดหญ้ามาตัดหญ้าในที่นาตนเอง ห่างจากบ้านประมาณ 1 กม. เมื่อหลานชายได้ยินเสียงเครื่องตัดหญ้า จึงรู้ว่าตากลับมาบ้าน จึงเดินไปหาตา
นายปฏิพัทธ์ฯ ให้การรับสารภาพว่า “เมื่อไปถึงก็ถามตาเรื่องข้าวสาร เพราะตาสัญญาว่าจะสีข้าวมาไว้ให้กิน ตาก็ด่ากลับว่า เป็นคนชั่วขนาดนี้กินข้าวเป็นด้วยหรือ หลานจึงเกิดความโมโห เดินกลับที่บ้านไปเอาท่อนไม้ไผ่มาฟาดที่ท้ายทอยตา 2 ครั้ง ตาจึงหมดสติล้มลง แล้วนำไม้ท่อนเดียวกันไปทุบกระจกรถ เพื่อหาของมีค่า แต่ได้เพียงกระติบข้าวเหนียว 1 กระติบ ก่อนเดินหลบหนีไป” เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ทำร้ายร่างกายบุพการี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย
นายชาญชัย นามวงษา ผญบ.บ้านหายโศก เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุตนไปประชุมที่อำเภอ จึงไม่ทราบข้อมูลตอนเกิดเหตุ สอบถามญาติทราบว่าตอนนี้หมอได้ผ่าตัดให้นายวิรัตน์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ตานก แล้ว แต่อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย นายวิรัตน์ฯ หรือตานกมีลูกสาว 2 คน คนโตคือแม่นายเก้า ทำงานอยู่ต่างประเทศ ส่วนลูกสาวคนเล็กทำงานอยู่ จ.ระยอง ขณะนี้กำลังเดินทางมาดูอาการพ่อแล้ว นายเก้าบวชเรียนจบ ป.6 ไม่เรียนต่อ แต่ก่อนนิสัยดี แต่พฤติกรรมเปลี่ยนไปเพราะหันไปเสพยา เคยพาไปบำบัดเมื่อกลางปีที่แล้ว แต่ก็กลับมาเสพอีก ช่วงหลังอาละวาดหนัก ทุบทำลายข้างของ ทำร้ายตา เมื่อขอเงินตาไม่ได้ จนต้องไปอยู่กับญาติที่หมู่บ้านอื่น