วุ่นกันถ้วนหน้า หนุ่มวัย 29 ปี โทรศัพท์แจ้งว่า ถูกคนไล่ยิงบาดเจ็บ1 รายชาย และมีผู้เสียชีวิต ทางอาสากู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวนพร้อมเสื้อเกราะ จึงรีบไปตรวจสอบ กลับพบว่าคนแจ้งหลอนขาดยาจิตเวชคิดไปเองว่ามีคนมาไล่ยิงสุดท้ายพบคู่กรณีเป็นสุนัข


















วันที่ 22 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 08.45 น.ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งจากนายวัชระ วชิมาเพศ (หนุ่มหลอนขาดยา) ว่ามีคนใช้อาวุธปืนไล่ยิงในป่าอ้อยบ้านกาเกาะบาดเจ็บ 1รายชาย และมีผู้เสียชีวิต ช่วงบริเวณถนนบ้านกาเกาะระโยง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวนพร้อมเสื้อเกราะพร้อมด้วย นายคำ แขพุดซา ผู้ใหญ่บ้านกาเกาะระโยง และอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ รีบรุดไปตรวจสอบ
เกิดเหตุช่วงบริเวณริมถนนบ้านกาเกาะระโยง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวนพร้อมเสื้อเกราะพร้อมด้วยนายคำ แขพุดซา ผู้ใหญ่บ้านกาเกาะระโยง และอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ เดินตามหาคนเจ็บและผู้เสียชีวิต แต่ไม่พบจึงได้โทรศัพท์ไปยังผู้แจ้ง
ทราบว่าผู้แจ้งเป็นนายวัชระ วชิมาเพศ(หนุ่มหลอนขาดยา) อายุ 29 ปี มีประวัติจิตเวชเห็นภาพหลอน นั่งอยู่หลบอยู่ภายในบ้านเลขที่ 5 หมู่ 8 บ้านกาเกาะระโยง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ด้วยอาการตัวสั่นเทาด้วยความกลัว ซึ่งเป็นบ้านของนายวัชระ วชิมาเพศ(หนุ่มหลอนขาดยา)เอง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวนพร้อมเสื้อเกราะพร้อมด้วยนายคำ แขพุดซา ผู้ใหญ่บ้านกาเกาะระโยง และอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ นำออกมาจากบ้านพัก ตามร่างกายไม่มีบาดแผลหรือรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนและไม่พบศพผู้เสียชีวิต นายวัชระอยู่ในอาการหวาดระแวงและตกใจกลัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยได้เข้าไปเพื่อสอบถามก็ได้คำตอบวกไปวนวนพูดไม่รู้เรื่อง จึงได้สอบถามคำเดิมวนไปมาซ้ำๆ ว่ามีคนมาไล่ยิงตน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายวัชระ วชิมาเพศ (หนุ่มหลอนขาดยา) เล่าวกวนพูดจาไม่รู้เรื่องว่า ตนมองเห็นสุนัขหลอนคิดไปเองว่า มีคนไล่ยิงตนและได้ยิงคนตายแล้ว 1คนตรงหน้าทางเข้าบ้านตั้งแต่เมื่อคืน ตนวิ่งหนีตายมาหลบอยู่ที่บ้าน ซึ่งตนถูกไล่ยิงตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้แล้ว
ด้านอาสากู้ภัยเล่าว่า หลังจากได้รับแจ้งว่ามี เหตุใช้อาวุธปืนยิงกันในป่าอ้อยบ้านกาเกาะบาดเจ็บ1 รายชาย และมีผู้เสียชีวิต ขอความช่วยเหลือว่า ถูกไล่ทำร้ายจึงนำกำลังพร้อมตำรวจมาตรวจสอบแต่ไม่พบว่ามีคนไล่ทำร้ายมีแต่คนที่วิ่งหนีจึงสอบถามพบว่า มีอาการหลอนแล้วคิดไปเองจึงทำให้กู้ภัยและตำรวจวุ่นกันไปหมดเพราะคิดว่าเป็นเหตุการณ์จริง จากนั้นก็ได้นำนาย วัชระ ไปส่งโรงพยาบาลสุรินทร์เพื่อรักษาอาการเห็นภาพหลอนต่อไป