จากกรณีการพบศพ น.ส.ศศิธร บัวมาตย์ หรือหนุ่ย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.6 ต.หนองโน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ถูกฆาตกรรมและนำศพมาทิ้งในไร่มันสำปะหลัง บ้านน้ำสามวัง หมู่ 3 ตำบลหัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 เม.ย.2567 พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น สนธิกำลังร่วมชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4,กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น และ สภ.กระนวนปูพรมค้นหาร่องรอยเบาะแสคนร้ายในจุดที่พบศพ และบริเวณใกล้เคียงที่พบศพ
โดยทีมสืบสวนได้เข้าไปในสวนยาง อยู่ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 500 เมตร และตรวจสอบบริเวณขนำในสวนยาง ซึ่งชุดสืบสวนยืนยันว่าเป็นจุดลงมือสังหาร น.ส.หนุ่ย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เชื่อว่าคนร้ายเป็นคนที่ น.ส.หนุ่ยรู้จัก และนัดแนะมาพบที่ขนำในสวนยาง ซึ่งน่าจะมีการพูดคุยกันในเรื่องที่รู้กันเฉพาะบุคคลเท่านั้น ที่บริเวณใต้ถุนขนำ แต่ไม่สามารถพูดคุยหรือตกลงกันได้ คนร้ายจึงใช้หมวกกันน็อค แบบเต็มใบเปิดคาง ทุบที่ใบหน้าและศีรษะจน น.ส.หนุ่ยสลบหมดสติ จากนั้นคนร้ายลากร่าง นางสาวหนุ่ยออกจากใต้ถุนขนำมาวางที่พื้นดิน แล้วใช้สายกระเป๋าสะพายของนางสาวหนุ่ย รัดคอแล้วใช้ท่อนไม้ฟืนในกองไฟขันชะเนาะสายกระเป๋าที่รัดคอน.ส.ศศิธรจนขาดใจตายจากนั้นคนร้ายเอาถุงปุ๋ยในสวนยางมาห่อศพแล้วดึงเอาเสื่อที่ปูอยู่บนขนำมาห่อทับซ้ำ แล้วก็อุ้มศพเดินออกจากสวนยาง เดินเลาะข้ามฝั่งถนนไปยังไร่มันสำปะหลังประมาณ 500 เมตร แล้วทิ้งศพในไร่มันสำปะหลัง
พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.กระนวน สืบสวนภ.จว.ขอนแก่น และสืบสวนภาค 4 ลงพื้นที่มาหลายครั้ง จนแน่ใจในจุดที่คนร้ายลงมือสังหาร น.ส.หนุ่ย ซึ่งคนร้ายที่ลงมือสังหารนั้น ไม่ใช่เจ้าของสวนยาง แต่เป็นคนภายนอกที่ใช้ขนำจุดนี้เป็นที่มั่วสุม นัดแนะกันในเรื่องการค้าขายยาเสพติด ส่วนคนร้ายน่าจะมี1-3 คน ที่เชื่อว่าต้องรู้จักกับคนตาย ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าคนตายพัวพันกับยาเสพติดมานาน จนไม่กลับบ้านไปหาลูกและหลับนอนไม่เป็นที่
“สาเหตุการถูกสังหารนั้นอาจเป็นได้ว่า คนตายเอายาเสพติดจากฝ่ายคนร้ายไปแล้วไม่จ่ายเงิน และล่วงรู้ความลับของคนร้าย ซึ่งคนร้ายเกรงว่าความลับจะถูกฝ่าย น.ส.หนุ่ยเปิดเผย จึงนัดมาเคลียร์กัน แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงลงมือฆ่าล้างหนี้และฆ่าตัดตอน เพื่อป้องกันความลับถูกเปิดเผย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพอมีเบาะแสของคนร้ายแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน”
พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่าส่วนขนำอีกจุดที่อยู่ตรงข้ามกันนั้น เนื่องจากมีชาวบ้านเห็นรอยเลือดในขนำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และพบถุงปุ๋ยลักษณะเดียวกันกับที่พันร่างคนตาย จึงได้เก็บรวมรวบหาหลักฐานในจุดนี้เพิ่มเติมทั้งหมด เพื่อทำการตรวจหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อหาเบาะแสคนร้าย
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถามชาวบ้านที่มาทำสวนยางทำไร่มันสำปะหลังใกล้ๆจุดเกิดเหตุและจุดที่พบศพ โดยได้พบกับ นายจำเนียร มาลาหอม เกษตรกรในพื้นที่ กล่าวว่า ในบริเวณดังกล่าว ไม่มีพระสงฆ์นอกพื้นที่มาอยู่ มีเพียงพระสงฆ์ ที่มีชื่อเสียงด้านไสยศาสตร์ไล่ผีปอบและมนต์ดำ มาอยู่ในสวนยางพาราของญาติ 20 ปีแล้ว แต่ไม่เคยมีปัญหากับใคร ทราบเพียงว่าพระรูปนี้ชอบหนุ่มวัยรุ่น จึงไม่มีเรื่องผู้หญิง
ส่วนการพบศพคนตายในไร่มันสำปะหลังนั้น ทราบเพียงว่าเจอศพผู้หญิงถูกเสื่อห่อร่างนำศพมาทิ้ง ได้ยินชาวบ้านพูดต่อๆกันว่า ผู้ตายไปเอาของเขามา แล้วไม่จ่ายเงิน จึงถูกฆ่า ซึ่งในพื้นที่ ที่พบศพนั้น มีพวกติดยาอยู่เยอะ ในส่วนของพระนั้นเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้อง เพราะพระชอบผู้ชาย ไม่ชอบผู้หญิง