ผอ.โรงเรียนอนุกูลนารี “โต้ข่าวปลอมวิ่งไล่ลุง” วอนหยุดใช้นักเรียนเป็นเครื่องมือการเมืองเพียงเพื่อสร้างความระบาดทางอารมณ์

ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุกูลนารีจังหวัดกาฬสินธุ์ โต้กระแสการปลุกระดม วิ่ง-ไล่-ลุง ที่โลกโซเชียวนำไปอ้าวว่าวันที่ 12 มกราคมนี้ จะมีการจัดกิจกรรมวิ่ง-ไล่-ลุง นั้นเป็นข่าวปลอม ยืนยันสถานศึกษาไม่มีนโยบายทางการเมืองแต่เป็นที่บ่มเพาะความรู้ให้นักเรียน พร้อมระบุพฤติกรรมกลุ่มนี้หวังจะใช้สถานศึกษาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อสร้างความระบาดทางอารมณ์

จากกรณีกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มอนาคตใหม่ และกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมากระจายข่าวผ่านโลกโซเชียวอ้างว่า ที่โรงเรียนอนุกูลนารี อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ จะมีการจัดกิจกรรม วิ่ง-ไล่-ลุง ในวันที่ 12 มกราคม 2562 เวลา 13.00 น. และมีการนัดแนะให้มารวมตัวกันที่สนามโรงเรียนอนุกูลนารีนั้น

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เข้าไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้รับคำยืนยันจาก นายเอกรักษ์ สารปรัง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุกูลนารี ว่าไม่มีการจัดงานวิ่ง-ไล่-ลุง ในวันที่ 12 มกราคมนี้อย่างแน่นอน โดยผู้อำนวยการฯ ได้นำเอกสาร ที่ ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นเอกสารการขอใช้สถานที่จัดอบรม ถึงผู้อำนวยการโรงเรียนอนุกูลนารี ว่าเป็นกลุ่มต่อต้าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมี นายชโนทัย มาตศรี เป็นแกนนำฯ ว่ามาขอจัดกิจกรรม วิ่งไล่ลุง ซึ่งระบุวัตถุประสงค์อย่างชัดเจนว่ากลุ่มนี้ไม่เอารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จึงต้องการชุมนุมเพื่อแสดงสัญลักษณ์จากประชาชน

กรณีดังกล่าวผู้อำนวยการโรงเรียนอนุกูลนารี ระบุว่า เอกสารดังกล่าวมีการขออนุญาตจริง แต่การออกเอกสาร ที่ระบุชื่อ นายชโนทัย มาตศรี แกนนำกลุ่มนั้น ถือเป็นเอกสารที่ไม่ผ่านการอนุญาติตั้งแต่ต้น เพราะหัวหนังสือที่ออก นั้นเป็นหนังสือที่ออกจาก โรงเรียนอนุกูลนารี ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยาศึกษา เขต 24 จึงเป็นหนังสือที่ออกมาไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก เพราะหากหัวหนังสือเช่นนี้คนที่ลงนามนั้นจะต้องเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเท่านั้นฯ อีกทั้งหนังสือนี้ผู้ที่นำหนังสือเข้ามา ก็เหมือนนำส่งหนังสือ โดยไม่ยอมแจ้งที่อยู่หรือระบุตัวตนที่ชัดเจน จึงเตรียมที่จะรอพบและจะแจ้งว่า โรงเรียนไม่อนุญาติ แต่กลุ่มดังกล่าว กลับนำเอกสารฉบับนี้ไปลงกระจายข่าวในโลโซเชียวในช่วงต้นปี จึงทำให้ทางโรงเรียนเกิดความเสียหาย และเพื่อความชัดเจน เมื่อวันที่ 2 มกราคม2563 ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุกูลนารีฯ ได้เข้าไปลงบันทึกประจำวันที่ ต่อ ร.ต.อ.ธีรภาพ ภูขันซ้าย พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ในกรณีมีเฟสบุ๊คอนาคตใหม่-อุบลราชธานี แจ้งว่าจะมีการจัดกิจกรรม เพื่อขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง อย่างแน่นอน

นายเอกรักษ์ สารปรัง ผอ.โรงเรียนอนุกูลนารี กล่าวว่า กรณีการจัดกิจกรรมไม่เป็นความจริง เพราะทางโรงเรียนไม่มีนโยบาย แต่ทางโรงเรียนมีหน้าที่ขัดเกลา จิตใจ และพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาให้กับนักเรียน เหตุที่เกิดขึ้นจึงเป็นการพยายามสร้างความปั่นป่วน ปลุกระดม ต่อเยาวชนจึงถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายต่อการสร้างกระบวนการเรียนรู้ เพราะเด็กนักเรียนในวัยนี้ มีหน้าที่ต้องเรียนหนังสือ เพื่อสร้างอนาคตให้กับตนเองเท่านั้น การที่กลุ่มของ นายชโนทัย มาตศรี อ้างตนว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นยุคใหม่ ไม่เอาเผด็จการจึงเป็นการปลุกระดมที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย เพราะในขณะนี้ ในทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ทางโรงเรียนอนุกูลนารี กำลังทำการติวเข้มให้กับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อที่จะไปสอบแอดมิชชั้น เข้ามหาวิทยาลัยฯ การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการสร้างความไข้วเขวให้กับนักเรียนและคนในสังคม

“ผมจึงต้องขอให้ผู้ที่คิดจะมาปลุกระดมนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนไหน ให้ตระหนักและคิดให้มาก เพราะนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 นั้น เฉลี่ยจะมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น การที่นำการเมือง ที่ยั่วยุปลุกปั้น ตามกระแสให้สังคมเกียจชั่ง ถือเป็นการสร้างความระบาดทางอารมณ์ ผู้ปกครองจึงควรแนะนำบุตรหลานให้มีความเข้าใจเพราะต้องเป้นผู้ใหญ่ในอนาคต เพราะแน่นอนว่าทางโรงเรียนมีหน้าที่ให้การศึกษาเพื่อพัฒนาให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ จึงไม่ควรที่จะตกเป็นเครื่องมือของใคร”ผอ.โรงเรียนอนุกูลนารีฯกล่าวในที่สุด

รายงานเพิ่มเติมว่านอกจากการเข้าลงบันทึกประจำวัน ผลจากการสร้างข่าวปลอมยังทำให้ผู้ครองหลายคนเกิดความสับสน เพราะเกรงว่าหากมีการปลุกระดมจำทำให้เกิดปัญหาทางการเรียนการสอน และนักเรียนจะมีอันตรายตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งทางโรงเรียนฯโดยสภานักเรียน ยังได้ออกเอกสารทางโลกโซเชียวของทางโรงเรียนเป็นประกาศ ถึงพฤติกรรมของบุคคลที่มีการแอบอ้างจะเข้ามาใช้สถานที่โรงเรียนอนุกูลนารี จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ว่าไม่เป็นความจริง และได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ซึ่งในอนาคตหากยังมีพฤติกรรมเช่นนี้อีกทางโรงเรียนอนุกูลนารี ก็เตรียมที่จะแจ้งความดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อไปด้วย