ผู้ใหญ่บ้านป่าหวาย ตำบลคำเหมือดแก้ว อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ถือเคล็ดปล่อยไก่แจ้ ถวายวัดให้สมภารเลี้ยงกินข้าวก้นบาตร แก้เคล็ดสะเดาะเคราะห์รับโชค เกิดการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว จาก 4 ตัว เป็น 100 ตัว ชาวบ้านฮือฮา วัดประจำหมู่บ้านกลายเป็นสวนสัตว์เลี้ยงไก่แจ้ประจำตำบล
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดคารมณ์ป่าหวาย บ้านป่าหวาย หมู่ 4 ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้มีการเพาะเลี้ยงไก่แจ้เป็นจำนวนมาก โดยเป็นเพื่อนและกินข้าวก้นบาตรกับสุนัขในวัดอย่างสงบสุข ไม่มีการรังแกกัน ซึ่งแต่ละวันจึงพบว่ามีชาวบ้านแวะเวียนมาชมความน่ารักของไก่แจ้ เพราะหาดูที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ ขณะที่วัดแห่งนี้มีให้ชมหลายตัว หลายรุ่น หรือหากอยากได้ไปเลี้ยงก็สามารถกราบขอจากสมภารวัด โดยไม่มีการซื้อขายอีกด้วย ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดตามดูบรรยากาศภายในวัดคารมณ์ป่าหวายดังกล่าว
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/01/13-1.jpg)
นายจำรัส เรืองจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านป่าหวาย กล่าวว่า ไก่แจ้ที่เห็นจับกลุ่มหากินในบริเวณวัด เป็นไก่แจ้ที่ตนนำพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ มาถวายสมภารวัดเมื่อปีที่ผ่านมา โดยถวาย 4 ตัว ทั้งนี้เป็นไก่แจ้ที่แม่ยายนำมาเลี้ยงไว้ในบ้าน แต่จากการที่ตนเป็นคนที่มีความเชื่อในเรื่องโชคลาภ มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์เลี้ยง อีกทั้งในช่วงที่เลี้ยงไก่แจ้ในบ้านนั้น รู้สึกว่าการดำเนินชีวิต หรือการทำมาหากิน ติดต่อการงาน ค่อนข้างมีอุปสรรค จะทำอะไรก็ไม่สะดวกราบรื่น มันติดขัดไปหมด มีเหตุให้ต้อง “แก้ไข” ตลอด ทำให้ตนคิดว่าสาเหตุคงเป็นผลมาจากการเลี้ยง “ไก่แจ้” ซึ่งเป็นคำคล้ายกันกับคำว่า“แก้” ดังนั้น จึงตัดสินใจนำไก่แจ้มาถวายวัด เพื่อเป็นการแก้เคล็ด และสะเดาะเคราะห์ รวมทั้งคาดหวังในโชคลาภด้วย ทั้งนี้หลังจากนำไก่แจ้มาถวายวัดแล้ว ตอนนี้ชีวิตครอบครัวดีขึ้น สุขภาพของทุกคนในครอบครัวดีขึ้น เชื่อว่าเป็นอานิสงส์จากการถวายไก่แจ้ให้วัดดังกล่าว
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/01/14.jpg)
ด้านนายลำไย วิทยาเวทย์ กรรมการวัดคารมณ์ป่าหวายกล่าวว่า หลังจากที่นายจำรัส ผู้ใหญ่บ้านนำไก่แจ้มาถวายวัด โดยกินข้าวก้นบาตรร่วมกับสุนัขในวัด ปรากฏว่าเกิดการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ถึงปัจจุบันมีประมาณ 100 ตัว ซึ่งอยู่ร่วมเป็นเพื่อนกับสุนัขโดยไม่มีการทำร้ายรังแกกัน บรรยากาศภายในวัดจึงเหมือนเป็นสวนสัตว์เลี้ยงไก่แจ้ประจำตำบล ไม่เคยมีคนเข้ามาลักขโมย ทั้งนี้ ไก่แจ้จะหากินภายในวัด บางตัวก็จะบินข้ามกำแพงวัดออกไปหากินข้างนอกบ้าง พออิ่มแล้วก็จะบินกลับเข้ามา กลางคืนก็ขึ้นนอนบนต้นไม้ มีภูมิต้านทานโรค ไม่เคยพบว่าเจ็บป่วยตาย ขณะที่หลวงพ่อหรือสมภารวัดท่านก็ใจดี
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/01/19.jpg)
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/01/20.jpg)
อย่างไรก็ตาม หากชาวบ้านคนใดอยากมาขอไก่แจ้ไปเลี้ยง หลวงพ่อก็ยินดียกให้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเอาไปเลี้ยงจริงๆ ไม่ได้เอาไปเชือดเป็นอาหาร นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านหลายคนมีความเชื่อเหมือนผู้ใหญ่บ้าน หรือต้องการแก้เคล็ดรับโชค โดยใช้ไก่แจ้เป็นสัญลักษณ์ เช่น ชีวิตการงานไม่ราบรื่น ก็มาขอไก่แจ้ไปแล้วเอาไก่แจ้มาถวายคืน เพื่อเป็นการแก้เคล็ดและรับโชคลาภวาสนา ต่างก็แจ้งผลว่าได้ผลดี ทั้งนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล