
จากกรณีเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 17 ต.ค.67 ตำรวจ สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตถูกฆ่าอำพรางฝังดินบนยอดภูเขา หมู่ 7 บ้านอ้ายเขา ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลลานสกา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยลานสกา รีบเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นภูเขาสูง เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถจักรยานยนต์แบบวิบากขับขึ้นไปบนภูเขาสูงกว่า 5 กิโลเมตร ที่เกิดเหตุเป็นสวนผลไม้บนยอดภูเขาสูง พบถังน้ำ 1000 ลิตร วางอยู่บนพื้นปูนส่วนศพถูกฝังดินใต้พื้นปูน เจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือเร่งขุดหลุมดังกล่าว ซึ่งลึกประมาณ 1 – 2 เมตร พบเท้าทั้งสองข้างของศพโผล่ ก่อนจะเร่งขุดศพขึ้นจากหลุม แข่งกับเวลา เนื่องจากท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว






จากการตรวจสอบพบจุดที่เป็นต้นตอของกลิ่นเหม็น ซึ่งคาดว่าพึ่งถูกขุดและกลบฝังมาเมื่อไม่นานนี้ โดยมีกลิ่นโชยออกมาจากบริเวณดังกล่าวอย่างรุนแรง จึงช่วยกันใช้จอบและเสียมขุดค้นหาอยู่นานเกือบชั่วโมงลึกลงไปกว่า 150 เมตร และเวลาล่วงเลยจนมืดค่ำ จึงพบซากศพผู้เสียชีวิตคาดว่าเป็นศพของนายอำนาจ บำรุงตน อายุ 31 ปี ที่อยู่ 130 หมู่ 2 ตำบลแคน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ สภาพศพเน่าเฟะ ในเบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 วัน โดยมีร่องรอยถูกยิงบริเวณแก้มขวาด้วยกระสุนปืนไม่ทราบชนิด 1 นัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงใช้รถจักรยานยนต์บรรทุกศพลำเลียงลงมาจากภูเขาอย่างทุลักทุเล นำส่งโรงพยาบาลลานสกา เพื่อให้แพทย์นิติเวช ร่วมชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่ พ.ต.อ.ประภาส ศรีสังข์จร ผกก.สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เผยว่า เมื่อช่วงเทียงวันที่ 13 ต.ค.67 มีนายธีรวุฒ ดาษพันธ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/1 หมู่ 11 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เข้ามาแจ้งความกับ ร.ต.อ.จิรวฒุิ อักษรกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลานสกา ว่า เพื่อนของตนชื่อนายอำนาจ บำรุงตน อาย 31 ปี บ้านเดิมอยู่จังหวัดสุรินทร์ หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ขณะไปเก็บผลไม้บนภูเขาไอคา หมู่ 12 ต.กำโลน แม้ว่าญาติๆ และเพื่อนช่วยกันตามหา แต่ไม่พบ จึงแจ้งตำรวจ หลังได้รับแจ้งทางตำรวจชุดสืบสวนสนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.ลานสกา นำกำลังข่าตรวจสอบบนภูเขาไอ้คา จุดสุดท้ายก่อนที่นายธีรวุฒ จะหายตัวไป พร้อมกับออกสืบสวนติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง กระทั้งวันนี้ขณะที่กำลังตำรวจและฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบจุดพบศพ พบสิ่งผิดปกติ มีการเทพื้นปูนใหม่ จึงใช้ไม้จิ้มพื้นดิน มีกลิ่นซากศพโชยขึ้นจากพื้นดิน จึงมั่นใจว่าใต้พื้นปูนเทใหม่ มีศพถูกฝังดิน จึงทำการขุดดินนำศพขึ้นมาชันสูตร เบื้องต้นศพที่ถูกฝังดินน่าจะเป็นนายอำนาจ บำรุงตน ซึ่งญาติแจ้งหายไว้ ก่อนหน้านี้ แต่ตำรวจอยู่ระหว่างขุดศพขึ้นชันสูตรพลิกศพให้แน่ชัดอีกครั้ง
ล่าสุดวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง หมู่ 2 ตำบลแคน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านตามบัตรประจำตัวประชาชนของนายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต) พบกับคุณย่าสมจิตร บำรุงตน อายุ 78 ปี และนายวุฒิพงศ์ ทองมี อายุ 52 ปีผู้ใหญ่บ้านแคน ซึ่งบรรยากาศบ้านมีทั้งญาติๆและเพื่อนบ้านได้ช่วยกันความสะอาดรอรับศพของนายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต)มาจาก จ.นครศรีธรรมราช โดยคุณแม่กับน้องชาย และอาได้เดินทางไปรับศพ
นายวุฒิพงศ์ ทองมี ผู้ใหญ่บ้านแคน เล่าว่า นายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต)นั้นจะกลับมาบ้านอยู่กับญาติ ๆ ประมาณ2เดือน และก็พึ่งขอย่าไปทำงานที่ต่างจังหวัดประมาณ 1 เดือนกว่าที่ผ่านมาซึ่งพึ่งได้ไปทำงาน โดยที่แล้วมาก็จะไปๆมาๆ ซึ่งปกติทางนายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต)จะทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานครอยู่กับภรรยาเขา โดยก่อนที่เขาจะกลับก็จะมาอยู่บ้านกับย่าก่อน 2 เดือนแล้วซึ่งผู้ตายพึ่งจะออกจากสุรินทร์ไปทำงานที่ต่าง จังหวัดได้เดือนเศษๆ ผู้ตายนั้นมีนิสัยเป็นคนร่าเริงชอบสนุกสนานและพูดเพราะ ประกอบกับไม่เคยสร้างความลำบากใจให้ใครหรือชาวชุมชนเลย ซึ่งเขากลับมาอยู่บ้านเขาก็จะดูแลย่าของเขา เพราะย่าอยู่คนเดียวและตามองไม่ค่อยเห็น จะเห็นเขานานๆดื่มสุรา แต่พอดีย่าหนักใจ จึงให้นายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต)ไปทำงานเพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเองในช่วงที่ 1 เดือนกว่าๆที่ผ่านมา
นายวุฒิพงศ์ ทองมี ผู้ใหญ่บ้านแคน ได้กล่าวเพิ่มเติมว่านายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต)นั้นมีภรรยาและมีลูกด้วยกัน 2 คน ซึ่งทางตนรู้ข่าวจากทีวีพร้อมกับน้องชายของนายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต)ได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าพี่โดนฆ่าตายแต่ไม่รู้โดนฆ่าในลักษณะไหน
ทางด้านคุณย่าสมจิตร บำรุงตน(ย่าผู้เสียชีวิต) เล่าว่า ลูกชายโทรศัพทมาบอกเมื่อประมาณวันที่ 5 ตุลาคม 2567ที่ผ่านมา เขาบอกว่านายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต)ได้หายไป พอมาช่วงหลังประมาณวันที่ 7 ตุลาคม2567 ลูกสะใภ้ซึ่งเป็นแม่ของนายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต)ได้โทรศัพท์มาบอกย่าอีก ซึ่งแม่ผู้เสียชีวิตจะเรียกผู้เสียชีวิตว่านุ บอกว่าหาไอ้นุไม่เจอเลยไม่รู้ว่าหายไปไหน ย่าก็ไม่เคยติดต่อกับนุเลยมีแต่เพื่อนเขาติดต่อไป ที่ทราบเรื่องว่านายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต) ได้เสียชีวิตก็เมื่อวานนี้(17 ต.ค.67)เพื่อนของนุโทรศัพท์มาบอกเขาถ่ายให้เห็นเลย แต่ย่ามองไม่เห็นหรอกเพราะสายตาย่ามองไม่เห็น ซึ่งย่าได้เลี้ยงนายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต)มาตั้งแต่เล็กๆเลย ซึ่งนายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต)ไปทำงานที่ต่างจังหวัดตั้งแต่จบมัธยมปีที่ 3 และมีครอบครัวอยู่กินกับคนชาวใต้ จนมีลูกด้วยกัน 2คนมา 10 กว่าปีแล้ว ทุกปีก็จะมาหาย่า ปีละ 1-2หน เพราะตนเป็นเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กๆ และก็จะกลับไปอยู่กับลูกและเมียที่ จ.สุมทรปราการ ไปอยู่กับพ่อตาแม่ยาย โดยเขาอยู่กันมา 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งลูกๆของนายอำนาจจะโทรศัพท์มาคุยเล่นกับย่าทุกวัน พอตนทราบข่าวร้ายตนรู้สึกเสียใจมาก ย่ายิ่งเป็นโรคหัวใจรั่ว ย่าอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมด้วย และขอให้จับตัวผู้ก่อเหตุให้ครบทุกราย โดยทางตนจะยังไม่เผาร่างนายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต) เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ครบ แล้วตนจึงจะเผาร่างนายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต)ทันที
คุณย่าสมจิตร บำรุงตน(ย่าผู้เสียชีวิต) เล่าเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนฌาปนกิจนั้น ตอนแรกย่าตั้งใจว่าจะนำมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านแคน หมู่ 2 ตำบลแคน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ นั้น แต่ทางแม่ น้องชาย และอา คุยกันว่าจะทำพิธีทางศาสนาและฝั่งศพไว้ก่อนที่วัดสน กรุงเทพมหานคร เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับผู้ร้ายมาลงโทษให้ครบ จึงจะนำมาฌาปนกิจนายอำนาจ บำรุงตน(ผู้เสียชีวิต)ต่อไป