
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 20 ตุลาคม 2567 ที่ศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ฮอลล์ ถนนทองใหญ่ เทศบาลนครอุดรธานี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานมูลนิธิก้าวหน้า ได้เดินทางไปปราศรัยหาเสียงช่วยเหลือ นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี พรรคประชาชน หมายเลข 1 ที่ได้ทำการจัดให้มีเวทีรณรงค์หาเสียง ปราศรัย เปิดนโยบาย “8 เสาหลักสร้างอุดรธานีให้น่าอยู่” โดยนายธนาธรฯ ได้ให้การรับรองว่านโยบายนี้ทำได้จริง และได้ทำมาแล้ว โดยมีผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น กำนัน ผญบ. และผู้นำท้องถิ่น เดินทางมารับฟัง รับเอกสารแนะนำตัวนายคณิศรฯ และว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.42 เขต พร้อมถ่ายทอดการปราศรัยผ่าน FB






นายคณิศร ได้กล่าวแนะนำตัวและแถลงนโยบาย “8 เสาหลักสร้างอุดรธานีให้น่าอยู่” ด้วยภาษาอีสาน เนื้อหาว่าได้รวบรวมความต้องการของประชาชน แล้วทำออกมาเป็นนโยบาย 8 ประการ คือ 1.ระบบสุขภาพทั่วถึงและเข้มแข็งเพื่อทุกชุมชน ด้วยการถ่ายโอน รพ.สต.ที่สมัครใจมีความพร้อม เริ่มอำเภอละ 2 แห่ง เพิ่มการบริการในทุกด้วย , 2.การศึกษาก้าวหน้าตลอดชีวิตเพื่อทุกวัย ยกระดับการศึกษา รร.สังกัด อบจ. ทุกอำเภออย่างน้อยมี 1 โรงเรียน , 3.สวัสดิการครอบคลุมทุกกลุ่มทุกชุมชน ดูแลตั้งแต่อยู่ในท้อง-หลังคลอด-การศึกษา-ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยติดเตียง , 4.พัฒนาเด็กเล็กอย่างรอบด้าน ,
5.บริการโปร่งใสด้วยการมีส่วนร่วม ประชาชนต้องรูปว่าแต่ละปีงบ 1,000 ล้านเศษเอาไปทำอะไรบ้าง อบจ.โปร่งใส่ ไทอุดรมีส่วนร่วม คอร์รัปชัน 0% , 6.สิ่งแวดล้อมปลอดภัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี น้ำประปาหมู่บ้าน-ชุมชนดื่มได้ , 7.ส่งเสริมเศรษฐกิจและอาชีพให้มั่นคง และ 8.ผลักดันระบบขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้มีรถโดยสาร EV เส้นทางในเมือง-โดยรอบ และมุ่งสู่ 4 แหล่งท่องเที่ยว คำชะโนด , ภูพระบาท-วัดป่าภูก้อน , ภูฝอยลม และทะเลบัวแดง
นายคณิศร กล่าวยืนยันว่า นโยบายทำได้จริง โดยในปีแรกทำได้ทันทีบางส่วน จากงบประมาณ อบจ.ปี 2568 สามารถปรับลดได้ อาทิ ปล่อยลูกปลาปีละ 40 ล้านบาท , ซื้อต้นทองอุไร 10 ล้าน , ขุดลอกย่อย 30 ล้านบาท และอื่นๆ แต่ก็เสียดายงบอีกกว่า 80 ล้านบาท ที่เอามาใช้เลือกตั้งถึง 2 ครั้ง เพื่อเอามาทำแผนงาน “ถนนปลอดหลุม ชุมชนปลอดภัย ไฟสว่างจุดเสี่ยง” ซึ่งแยกถนนเป็น 3 ลักษณะ คือ ไอซียู. ต้องซ่อมใหญ่ทันที , ผู้ป่วยใหญ่ ทำการซ่อมเบื้องต้น และป่วยทั่วไปซ่อมปีที่สอง
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานมูลนิธิก้าวหน้า กล่าวว่า การเมืองสู้กันด้วยนโยบาย จะเลือกด้วยนามสกุล หรือเลือกด้วยความรู้ความสามารถ การเลือกตั้งที่ผ่านมาพิสูจน์แล้ว ว่านโยบายที่จับต้องได้ ทำให้ไม่ต้องซื้อเสียงแม้แต่บาทเดียว การซื้อเสียงก็นำไปสู่การคอรัปชั่น “มาช่วยกันเปลี่ยนการเมือง จากยึดโยงกับนามสกุล มาเป็นการเมืองยึดโยงกับนโยบาย” นโยบายที่นายคณิศรฯแถลงไป ท่านฟังแล้วคิดยังไงอย่างเพิ่งเชื่อ ให้ท่านไปฟังของอีก 2 ผู้สมัคร ไปถามเขาว่ามีนโยบายอะไร มีวิสัยทัศน์อย่างไร แล้วเก็บข้อมูลไปบอกคนที่บ้าน ให้คนที่บ้านเขาตัดสินใจ ถ้าคณิศรฯได้รับโอกาส แล้วไม่ทำตามที่บอกไว้ หรือมีการโกงกิน ตนเองไม่กล้ากลับมาที่อุดรธานีอีก
นายธนาธร กล่าวอีกว่า ได้ดูนโยบายของนายคณิศรฯแล้ว บอกได้ว่าทำได้อย่างที่พูด เริ่มจากไปดูงบประมาณ อบจ.อุดรธานี ปีละประมาณ 1,187 ล้านบาท เป็นงบที่ไปแตะไม่ได้ 700 ล้านบาท ที่เหลือก้เอามาพัฒนาอุดรธานี นอกจากนี้ยังมีเงินสะสมอีก 1,153 ล้านบาท ทั้งสองส่วนยืนยันว่านโยบายนายคณิศรฯทำได้ เพราะเราทำกันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงระบบประปาให้น้ำดื่มได้ เราทำสำเร็จได้ใบรับรองมา 5 แห่ง รวมทั้งที่ อบต.นาบัว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี , การแยกขยะที่ ทต.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด นายกฯสมัยแรกของเราก็ทำสำเร็จ ลดขยะลงได้กว่า 30 % , เรื่องการพัฒนายกระดับ รพ.สต.หนองแค มุกดาหาร เรานำเอาเทคโนโลยี “เทเลอเมเดอซีน” เชื่อมหมู่บ้านเข้าหา รพ.สต.และ รพ. นโยบายถ่ายนโอน รพ.สต.มา อบจ.ทำได้ แต่ที่ผ่านมา อบจ.อุดรธานีถ่ายโอนเป็น 0 และนโยบายรถประจำทางสู่แหล่งท่องเที่ยว เป็นแผนงานที่ตนเองพอใจ เพราะจะเกิดเศรษฐกิจริมถนนตลอดเส้นทาง
หลังจากนั้นนายธนาธร ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้นายคณิศรฯ ขอโอกาสรับใช้ประชาชน เอาพลังและความคิดใหม่ๆ เข้าไปผลักดันความเปลี่ยน และความก้าวหน้าให้กับอุดรธานี ส่วนนโยบายเสา 8 หลัก ของนายคณิศรฯ ก็คืออยากให้พี่ประชาชนมีส่วนร่วม ในการกำหนดงบประมาณมากที่สุด เพื่อให้งบประมาณได้สอดคล่องกับความต้องการของประชาชน ดังนั้นแนวทางในการบริหารงานต้องไปรับฟังความเห็นจริงกับประชาชน ที่นี่ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ที่นี่มีปัญหาเรื่องน้ำประปา ที่นี่มีปัญหาเรื่องขยะ แต่ละพื้นที่มีความต้องการแตกต่างกัน จึงออกแบบนโยบายมาได้ต้องดึงประชาชนมีส่วนร่วม ที่สำคัญก็คือไม่ออกแบบนโยบายงบประมาณบนห้องแอร์ แต่ต้องฟังประชาชนและเข้าหาประชาชน แล้วตั้งงบประมาณสนับสนุนเข้าสู่ท้องถิ่น จะได้ตอบโจทย์ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ
“ส่วนนโยบายที่ตนชอบเรื่องสาธารณะสุข การดูขั้นปฐมภูมิ ในการผลักดัน รพ.สต. เข้ามาที่ อบจ.อุดรธานี เพราะที่อุดรฯก็ยังไม่มีการถ่ายโอนเลย เพื่อจะได้ยกระดับให้ศักยภาพมากขึ้น ได้ลดความแออัดในโรงพยาบาลศูนย์ ทำให้ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และอีกนโยบายหนึ่ง ในเรื่องการพัฒนาเศรษฐ์กิจ การสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชน ด้วยการใส่รถเมล์ เชื่อมไปยังสถานท่องเที่ยว โรงแรม สนามบิน รถไฟ บชส. ตลาด โรงพยาบาล และโรงเรียน เข้าด้วยกัน ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว มีทางเลือกในการเดินทาง เมื่อมาถึงจ.อุดรธานี ไม่จำเป็นต้องเช่ารถ สามารถเดินทางไปที่ต่างๆได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานมาเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานมูลนิธิก้าวหน้า เดินทางช่วยนายคณิศรฯ รณรงค์หาเสียงจุดแรก ช่วงเช้าเดินขอคะแนนที่ตลาดเทศบาลตำบลกุมภวาปี อ.กุมภวาปี จากนั้นไปปราศรัย บริเวณโดม ทต.แสงสว่าง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี นอกจากนี้จุดสุดท้ายจะไปดูความสำเร็จ ในการบริหารการจัดการน้ำประปาดื่มได้ อบต.นาบัว อ.เพ็ญ