
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่กองกำกับการตำรวจตะเวนชายแดนที่ 24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ จ.อุดรธานี พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภาค 2 พล.ต.สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี พ.ต.อ.คณิต กลิ่นศรีสุข รอง ผบก.ตชด.ภาค 2 พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และ พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย รอง ผกก.ตชด.24 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ได้กลางเป็นยาไอซ์ 354 กก. มูลค่ากว่า 354 ล้านบาท









พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติด ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. , พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด.รรท.ผบช.ตชด., ในการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ หลังทราบว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 21 ต.ค.67 ตนจึงได้ สั่งการให้ หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าว บก.ตชด.ภาค 2 ไปร่วมบูรณาการกับ ชปข.กก.ตชด.24,ชปข.ร้อย ตชด.235 นำกำลังไปดักซุ่มอยู่หน้าโรงแรงแห่งหนึ่ง ภายในซอยยูค่อน เขตเทศบาลนครอุดรธานี จนกระทั่งเวลา 18.30 น. พบรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตตี้ สีขาว ทะเบียน ขธ 4902 อุดรธานี จอดอยู่หน้าโรงแรม และมีผู้หญิง 1 คนเดินลงมาที่รถ ทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.ตอง (น.ส.ปัญจรัช ทองภู หรือใบตอง) อายุ 21 ปี ชาว ต.แสงสว่าง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น
จากการตรวจค้นพบว่าภายในห้องโดยสารและที่เก็บของหลังรถ เต็มไปด้วยกระสอบสีรุ้ง จำนวน 12 กระสอบ อัดแน่นเต็มคันรถ ในกระสอบพบถุงผลิตภัณฑ์ใบชาแห้ง มีโลโก้ภาษาจีน น้ำหนักถุงละ 1 กก. จำนวน 354 ถุง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นยาไอซ์ทั้งหมด จึงควบคุมตัว น.ส.ใบตอง พร้อมของกลางมาทำการสอบสวน เบื้องต้นสารภาพว่า พ่อชื่อวี สัญชาติลาว อายุประมาณ 50 ปี โทรมาติดต่อขอฝากของ เดี๋ยวจะมีคนมารับไปอีกทอดหนึ่ง ตนไม่รู้ว่าข้างในเป็นยาเสพติด เพียงแต่รับฝากจากพ่อเท่านั้น โดยมีการบันทึกภาพขณะเข้าจับกุมไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ก่อนนี้มีสายรายงานมาโดยตลอดว่าจะมีการนำยาเสพติดล็อตใหญ่มาพักไว้ที่ จ.อุดรธานี ก่อนที่จะมีการกระจายเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน บริเวณภาคกลางของประเทศไทย มีการจับกุมได้อยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นล็อตที่ใหญ่มาก เป็นยาไอซ์จำนวน 354 กก. มูลค่ากว่า 354 ล้านบาท และหากหลุดเข้าไปในพื้นที่ชั้นใน อาจจะมีมูลค่ามากกว่านี้หลายเท่าตัว ถือเป็นการสกัดเส้นทางลำเลียงของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติ ตามนโยบายการปราบปรามของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ บูรณาการร่วมกันในการปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ และในภายภาคหน้าจะต้องเร่งสกัดยาเสพติดไม่ให้เข้ามาในพื้นที่อีก
จากการสอบสวน น.ส.ใบตอง ให้การทั้งน้ำตาว่า พ่อแม่ตนแยกทางกันตั้งแต่ตนยังเล็ก ตนโตมากับตาและยายที่ อ.หนองแสง แม่มีครอบครัวใหม่อยู่ต่างประเทศ พ่อจะติดต่อกันบ้าง 2 – 3 เดือนครั้ง แม่จะดูแลค่ากิน ค่าเรียน ส่วนพ่อจะส่งเงินมาให้ใช้บ้าง ส่งมาเป็นค่าเช่าหอบ้าง ไม่เคยรู้ว่าพ่อทำงานแบบนี้ ไม่รู้ว่าพ่อฝากส่งอะไรมา แต่ก็ยอมรับว่าเคยไปช่วยพ่อ ขับรถดูเส้นทางส่งสินค้าอะไรบางอย่างให้ พ่อไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร ทำมาแล้ว 2 ครั้ง อยู่ที่อุดรฯ ตนก็เช่าโรงแรมและเช่ารถขับอยู่แล้ว มาครั้งนี้พ่อก็บอกว่าจะแค่ฝากของ จะมีคนเอาของมาใส่รถ ตนรู้แค่นั้น แล้วพ่อก็บอกว่าให้ขึ้นไปนอนที่ห้อง ตนลงมาจากห้องก็มาถูกจับ
“เมื่อวานพ่อโทรหา แต่ไม่ได้รับสาย พอเกิดเรื่องแล้ว โทรกลับไปหาพ่อ พ่อก็ไม่รับสาย ตนรักพ่อมาก อยากให้พ่อรักหนูบ้าง พ่อทำไมทำกับหนูแบบนี้ หนูกำลังเรียนหนังสือ เป็นนักศึกษาอยู่ชั้น ปี 4 ของ สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในเมืองอุดรธานี จะเรียนจบอยู่แล้ว แต่พ่อก็มาทำกับหนูแบบนี้ หนูไม่เคยได้รับความรักจากพ่อเลย ซ้ำยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ หนูขี้เกรงใจ กลัวพ่อดุด่า ก็ทำไปตามที่เขาบอก อยากให้พ่อออกมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป ตอนนี้หนูกลัวมาก ไม่รู้จะหันไปพึ่งใครได้บ้าง”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสืบสวนหาผู้กระทำความผิดในขบวนการดังกล่าวทั้งหมด มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป