
เมื่อเวลา 08.45 น.วันที่ 10 มกราคม ร.ต.อ.ศราวุธ สุนทรชัย รองสารวัตรสอบสวน สภ.ย่อยนาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีรถไฟชนคนเสียชีวิต ที่บริเวณสะพานทางพาดรถไฟบ้านโนนสมบูรณ์ หมู่5 ตำบลนากว้าง ไปบ้านท่าตูม อ.เมืองอุดรฯ หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี







ที่เกิดเหตุเป็นสะพานทางพาดรถไฟข้างห้วยบึงกระทา พบร่างของนายวัชริน วงษ์เสียงดัง อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 93 หมู่1 ต.นากว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี ใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินคลุมด้วยเสื้อแขนวยาวสีดำแบบมีฮู้ด นุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าแตะสีเหลือง นอนหงายเสียชีวิตอยู่ริมตลิ่งใต้สะพาน สภาพศพที่ศีรษะด้านขวามีรอยแผลแตกลึกถึงกะโหลก ตรวจสอบในตัวมีบัตรประจำตัวประชาชน สมุดบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.และใบถอนเงิน หลังจากนั้นได้มีนายทองคำ วงษ์เสียงดัง อายุ 83 ปี พ่อผู้ตาย มาถึงเห็นสภาพศพลูกชาย แล้วได้บอกดวงวิญญาณลูกชายว่า พ่อมาหาแล้วเดียวจะพากลับบ้านเรา
จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.รุ่งตะวัน จันทร์แสง อายุ 42 ปี ชาวบ้านโนนสมบูรณ์ คนที่รู้จักกับผู้ตายและแจ้งให้ ผญบ.นากว้างหลังเห็นศพผู้ตายให้การว่า ตนเคยเห็นผู้ตายเดินไปมาแถวนี้ประจำ ทราบคนตายจะไปถอนเงินที่ ธ.ก.ส. ซึ่งอยู่แถวบ้านท่าตูม เวลามีงานบุญหรืองานศพในหมู่บ้าน ก็จะเห็นผู้ตายมาช่วยงานเป็นประจำ โดยเขามีน้ามาเลี้ยงวัวเลี้ยงควายอยู่ในหมู่บ้าน พอตนรู้ว่ามีคนโดนรถไฟชนเสียชีวิต ก็ได้เดินทางมาดู และแจ้งให้ ผญบ.ทราบ เพื่อไปแจ้งญาติของผู้ตายให้ทราบ
นายทองคำ วงษ์เสียงดัง เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นคนพิการทางสมอง พักอาศัยอยู่บ้านกับตน จะได้รับเงินคนพิการ เดือนละ 800 บาท โดยปกติตนจะพาลูกชายไปถอนเงิน แต่วันนี้ลูกชายไม่ยอมรอตน ซึ่งก็ได้ห้ามก็ไม่ฟัง แล้วเดินออกมาจากบ้านตั้งแต่ เวลา 05.00 น. และในเวลาต่อมาก็มีผู้ใหญ่บ้าน ได้มาบอกว่าลูกชายถูกรถไฟชนเสียชีวิต แล้ว ตนจึงได้รีบมาดู เมื่อเห็นรองเท้าของลูกชายตนก็จำได้ ลูกชายจะไปถอนเงินเอาเล่นไปการพนันแทงไฮโล
พ.ต.ท.ศราวุธ สุนทรชัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทราบว่า รถไฟที่ชนผู้ตาย ได้เดินทางออกมาจากทางสถานีรถไฟ จ.หนองคาย มุ่งหน้าไปสถานีรถไฟอุดรธานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ตายเดินกำลังข้ามสะพานแล้วหลบไม่ทัน จึงได้ถูกชนจนร่างตกลงไปในลำห้วย เจ้าหน้าที่ขับรถไฟจึงจอดรถลงไปดู พบผู้ตายอยู่ในน้ำ จึงลงไปช่วยแต่ก็พบว่าได้เสียชีวิตแล้ว จึงนำศพมาไว้ริมตลิ่งใต้สะพาน ก่อนจะโทรแจ้งตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมา จึงได้เคลื่อนขบวนรถไปที่สถานีรถไฟอุดรธานี
จากนั้นแพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบว่าผู้ตายศีรษะแตก คอหัก จึงได้นำศพไปเก็บรักษาที่รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อให้ญาติไปติดต่อรับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป ส่วนคนขับรถไฟจะได้เชิญตัวมาสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป