
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 11 มกราคม 2568 นายทรงกลด สาคุณ หรือโก้ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224 หมู่ 4 บ้านโนนตูม ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี พาใบหน้าที่ฟกช้ำและแผลแตกที่หน้าผากเข้าแจ้งต่อ ร.ต.อ.ศราวุธ สุนทรชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ว่าโดนนายนพรัตน์ ณรงชัย หรือเนียน อายุ 43 ปี พี่ชายภรรยาบุกมาทำร้ายร่างกายที่บ้าน








นายทรงกลดฯ ให้การว่า ก่อนนี้ตนยังไม่เคยมีครอบครัว เมื่อ 3 ปีก่อน ตนได้มาอยู่กินฉันสามีภรรยากับ น.ส.ธิดา อายุ 41 ปี แม่ม่ายลูกติด 2 คน น้องสาวของนายเนียน ชาวบ้านดอนหญ้านาง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กัน พวกตนยึดอาชีพเร่ขายลูกชิ้นทอดไปตามหมู่บ้าน ในขณะที่นายเนียนติดคุกข้อหาจำหน่ายยาเสพติด ที่เรือนจำ จ.หนองบัวลำภู ภรรยาตนไม่อยากไปเยี่ยมพี่ชาย แต่ตนได้ให้เมียไปเยี่ยมพี่ชายอยู่เสมอ ทุกครั้งที่ไปตนจะซื้ออาหารทุกอย่างที่นายเนียนอยากกินไปเยี่ยม เดือนตุลาคม 2567 นายเนียนพ้นโทษออกมา แล้วได้คบหากับ น.ส.น้ำ อายุ 21 ปี หลานสาวของตน ซึ่งเป็นลูกพี่สาวตนที่ไปมีครอบครัวอยู่ต่างประเทศ
นายโก้ ให้การต่อไปว่า ต่อมาเวลา 22.00 น. วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา นายเนียนได้ขับรถเก๋งมาจอดหน้าบ้านตน ซึ่งบ้านตนกับบ้านพี่สาวได้สร้างให้แม่อยู่กับ น.ส.น้ำ ก็อยู่ตรงข้ามกัน นายเนียนมาจุดประทัดลูกบอลปาใส่บ้านตนหลายนัด และยังมีเสียงรัวคล้ายกับเสียงยิงปืนด้วย แถมนายเนียนได้เดินเข้ามาในบ้านจุดไฟเผากองฟองสำหรับเลี้ยงวัวไหม้เสียหาย ส่วนสาเหตุที่นายเนียนมาปาประทัดและเผากองฟางในบ้านตน คาดว่านายเนียนจะโกรธหรือทะเลาะกับ น.ส.น้ำ หลานสาว ซึ่งพี่สาวได้ดูภาพกล้องวงจรปิดผ่านมือถือ พร้อมกับตัดคลิปส่งมาให้ตนเป็นหลักฐานในการแจ้งตำรวจ แต่พอตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ นายเนียนก็หลบหนีไปแล้ว
นายโก้ กล่าวต่อไปว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลา15.00 น. เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) ขณะที่ตนกับญาติ กำลังนั่งกินข้าวสังสรรค์อยู่ที่บ้านแม่ นายเนียนขับรถเก๋งมาจอดหน้าบ้าน แล้วลงจากรถเดินปรี่เข้ามาเตะ น.ส.น้ำ หลานสาวของตน ซึ่งคบหากันนายเนียนได้เพียง 2 เดือน ตนรู้สึกไม่พอใจ จึงได้ต่อว่านายเนียนไป ที่เกรงใจแม่ตนที่นั่งอยู่ด้วย นายเนียนจึงถามว่า “มึงเหรอที่แจ้งตำรวจ” จากนั้นก็สวมสนับมือชกตนทั้งที่เบ้าตาทั้ง 2 ข้าง และศีรษะหลายครั้ง ทำให้มีแผลแตกเลือดไหลอาบหน้า ส่วนตนสวนคืนได้หมัดเดียวเท่านั้น
นายโก้ กล่าวต่อไปว่า ขณะตนโดนนายเนียนทำร้าย ญาติต่างตกตะลึงกันหมด แต่แม่ตนได้ร้องตะโกนบอกให้ตนหนีไป เพราะคิดว่านายเนียนมีปืน ตนจึงวิ่งหนีไปกระโดดกำแพงรั้วข้างบ้านหลบหนีไปกลางทุ่งนา ก่อนจะไปขอหลบอยู่ในบ้านของเพื่อนบ้าน แล้วจึงไปหาหมอทำแผล และมาแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีกับนายเนียนจนถึงที่สุด
“สิ่งที่ตนทำดีมากับนายเนียนขณะอยู่ในคุกไม่มีค่าเลย อยากกินอะไรตนก็ซื้อให้กิน เพราะคิดว่าเป็นพี่ชายเมีย พอออกมาจากคุกกลับไม่คิดถึงความดีที่ตนทำ ยังมาเนรคุณทำร้ายคนในบ้าน และทำร้ายตนอีกด้วย เมียตนซึ่งเป็นน้องสาวนายเนียน ก็เข้าข้างตน ให้แจ้งความดำเนินคดีกับนายเนียนพี่ชาย หากนายเนียนติดคุกอีกก็คงไม่ไปเยี่ยมหาดูแลอีกแล้ว”
ส่วนนายเอ นามสมมติ อายุ 17 ปี เด็กวัยรุ่นในหมู่บ้านโนนตูม กล่าวว่า เคยโดนนายเนียนข่มขู่ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนได้ขับขี่รถ จยย.ไปกับเพื่อนประมาณ 4-5 คัน จะไปเตะฟุตบอลที่โรงเรียน นายเนียนขับรถเก๋งโตโยต้า สีขาว ตามหลังมา แล้วบีบแตรใส่ก่อนขับแซงไป แล้วไปจอดดักหน้ารอ นายเนียนเดินลงมาจากรถ ก่อนจะถามว่า “ขับรถแบบนี้อยากตายเหรอ อยากเจอเหรอ” ก่อนเปิดกระเป๋าทำท่าล้วงอาวุธ ส่วนคนที่นั่งรถมาด้วยใช้มือถือถ่ายรูปตน ซึ่งตนไม่เคยทะเลาะกับนายเนียนมาก่อน แต่เท่าที่รู้เขาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งนายเนียนจะทำตัวเป็นขาใหญ่ในหมู่บ้าน พร้อมข่มขู่ตนว่าอย่าให้เจออีก หลังเกิดเหตุการณ์นี้ ตนระวังตัวมากขึ้น กลางคืนไม่ออกจากบ้าน แม่ไม่ให้ไปแจ้งความ เพราะเกรงว่าเขาจะอาฆาต
ส่วน จนท.ตำรวจจะได้ออกหมายเรียก และประสานไปยังชุดสืบสวนให้ติดตามตัวนายนพรัตน์ ณรงชัย หรือเนียน อายุ 43 ปี มาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหา “บุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล ทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป