ข่าวอัพเดทรายวัน

กาฬสินธุ์ผู้ว่าติดตามการเปิดภาคเรียนที่ 2 คุมเข้มป้องกันโควิด

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ ติดตามการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ในพื้นที่ อ.สมเด็จ พร้อมให้กำลังใจผู้บริหาร และครูในการจัดการเรียนการสอนภายใต้มาตรการคุมเข้มป้องกันโควิด-19 ขณะที่สถานการณ์ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 และการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่อำเภอสมเด็จ โดยได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการเปิดการเรียนการสอนของ โรงเรียนเอกปัญญา และโรงเรียนแซงบาดาลบ้านบากวิทยา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ให้กับโรงเรียน คณะครู และผู้บริหาร ที่กลับมาจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนและสถานศึกษาตามมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข

โดยจากการลงพื้นที่ พบว่าโรงเรียนทั้งสองแห่งมีการเตรียมพร้อมในทุกด้าน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด 19 ทั้งการจัดระบบคัดกรองก่อนเข้าโรงเรียน การเว้นระยะห่างในการเข้าแถว การจัดสถานที่ในโรงเรียน ห้องเรียน โรงอาหาร ให้มีพื้นที่โล่ง พร้อมจัดจุดล้างมือไว้บริการทั่วทั้งโรงเรียน ในส่วนของการบริหารจัดการเรื่องการเรียนการสอน ได้มีการจัดการเรียนการสอนภายใต้มาตรการ Sandbox : Safety Zone in School ทั้ง 4 ด้าน โดยเฉพาะการจำกัดนักเรียนในห้องเรียนไม่เกิน 25 คน ใช้การเรียนการสอนแบบสลับวันเรียน หรือจัดห้องเรียนใหม่ตามสภาพพื้นที่ของแต่ละโรงเรียน ร่วมกับการเรียนการสอนแบบ Online และปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเข้มข้น

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้กล่าวชื่นชมผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากร คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันในการเตรียมความพร้อมและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันต่างๆ เพื่อให้มีการเรียนการสอนให้โรงเรียนแบบปกติหลังจากที่ต้องใช้วิธีเรียนออนไลน์ในภาคเรียนที่ผ่านมา ซึ่งก่อเกิดประโยชน์ทางการศึกษา ต่อลูกหลานกาฬสินธุ์ ถึงแม้จะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่สิ่งที่ต้องปฏิบัติตลอดคือการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง การล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์อยู่เสมอ อีกทั้งยังได้เน้นย้ำให้ทุกคนต้องปฏิบัติมาตรการ Universal Prevention for COVID-19 ด้วยการป้องกันตนเองสูงสุด คิดเสมอว่าคนใกล้ตัวอาจเป็นคนติดเชื้อและเราเองก็อาจเป็นคนแพร่เชื้อได้ ดังนั้นต้องเข้มงวดมาตรการ DMHTT ต่อเนื่อง และเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ตนเอง และคนในครอบครัว

ขณะที่ศูนย์อำนวยการต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จ.กาฬสินธุ์ รายงานสถานการณ์โรคล่าสุดพบผู้ป่วยเพิ่มรายใหม่อีก 53 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อใน ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็กกลับจากงานบุญกฐินใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 16 ราย, ในพื้นที่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ติดจากญาติ 1 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 11 ราย, อ.กมลาไสย ต.ธัญญา 1 ราย ติดเพิ่มจากคลัสเตอร์งานบุญกฐินบ้านบึง ต.หลักเมือง 4 ราย, อ.กุฉินารายณ์ ติดเชื้อเพิ่มจากคลัสเตอร์งานศพต.บัวขาว 5 ราย, อ.สมเด็จติดเพิ่มจากคลัสเตอร์งานขึ้นบ้านใหม่ชุมชนหนองผ้าอ้อม 3 ราย, อ.หนองกุงศรี 3 ราย,ติดเชื้อจากต่างจังหวัดใน อ.ยางตลาดและอ.ห้วยเม็กรวม 4 ราย,มาจากพื้นที่เสี่ยงในอ.สหัสขันธ์ 2 รายและอ.ห้วยเม็ก 3 ราย โดยซึ่งยอดผู้ป่วยสะสมของจังหวัดล่าสุดอยู่ที่ 9,873 ราย หายป่วยแล้ว 9,388 ราย กำลังรักษาตัว 420 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 65 ราย