ระทึกไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลังกลางชุมชนหมู่บ้าน บรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลเมืองสุรินทร์ระดมรถดับเพลิง 5 คันสกัด หวั่นลามไหม้บ้านติดกันกลางชุมชน ขณะที่บ้านในชุมชนที่อยู่ใกล้กันต่างพากันนำคนแก่ออกมาจากบ้าน
เมื่อเวลา 13.25 น.วันที่ 7 มีนาคม 2568 ศูนย์กู้ภัยสุรินทร์ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น ที่บ้านเลขที่ 150/2 ชุมชนเทศบาลอนุสารณ์ ซอยกำแพง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงรีบประสานรถดับเพลิง จำนวน 5 คันในการเข้าฉีดสกัดดับเพลิง พร้อมทั้งประสาน พ.ต.ท.สมนึก บุญเจริญ สว.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ และอาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ รีบรุดตรวจสอบพร้อมกับความช่วยเหลือ
ในที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2ชั้นที่ล้อมด้วยรั้วสังกะสีอย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นเป็นไม้ด้านบนและมีของเก่าที่เก็บไว้มาก กำลังลุกลามไปบ้านที่อยู่ติดกัน และที่เกิดเหตุเป็นซอยแคบมีบ้านพักอยู่ติดกันจำนวนมาก ส่วนมากจะทำด้วยไม้ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยต้องนำรถดับเพลิงจอดต่อกัน บริเวณด้านนอกและลากสายดับเพลิงเข้าไปยังที่เกิดเหตุ ระยะทางประมาณกว่า 100 เมตร จนท.จึงใช้เวลาควบคุมเพลิงนานเกือบ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ พบว่าไฟได้ไหม้บ้านวอดเสียหายทั้งหลัง ทรัพย์สินภายในบ้าน อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เสื้อผ้า ของใช้จำเป็น เอกสารต่าง ๆ รวมมูลค่าความเสียหายยยังประเมินค่าไม่ได้
ด้าน นายไกรสิทธ์ ชัยรันต์ถาวร เสื้อสีขาว (เจ้าของบ้าน) เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนนั้นได้นอนเล่นอยู่ศาลาไม้นั่งเล่นนอกบ้าน ได้สังเกตเห็นควันพวยพุ่ง ออกมาจากบริเวณชั้นล่างของบ้าน และเห็นไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง และตนได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยดับไฟ พร้อมกับตะโกนเรียกให้เพื่อนบ้านมาช่วย ซึ่งตนคิดว่าน่าจะไฟฟ้าลัดวงจรมากกว่า เพราะตนชาร์ตแบตเตอร์รี่สวานไว้ จึงทำให้เกิดไฟไหม้บ้านตนหมดทั้งหลัง โชคดีที่เจ้าหน้าที่สกัดไฟไม่ให้ลุกลามไปบ้านหลังอื่นได้
เบื้องต้น พ.ต.ท.สมนึก บุญเจริญ สว.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ตำรวจสันนิษฐานว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ประกอบกับอากาศที่ร้อนจัด จึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และบ้านหลังดังกล่าวชั้น 2 เป็นไม้เก่า ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อย่างไรก็ตามจะได้มีการสืบสวนสอบสวนและตรวจสอบถึงหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ที่ชัดเจนต่อไป
