ข่าวอัพเดทรายวัน

รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ 9 พลิกผืนดินแห้งแล้ง เป็นแปลงข้าวเขาวง GI ทรงคุณค่า สร้างงาน สร้างอาชีพ มั่นคง ยั่งยืน ด้วยพระบารมี

ในอดีต อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ เป็นพื้นที่ทุรกันดาร ไม่มีระบบน้ำชลประทาน การประกอบอาชีพเกษตรกรรมอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จเยี่ยมพสกนิกร เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2535 ทรงได้ทอดพระเนตรเห็นสภาพความเป็นอยู่ของราษฎร ที่เผชิญกับความแห้งแล้ง ทำให้เกิดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้นหลายโครงการ เช่น โครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำพะยังตอนบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ โครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝนบ้านแดนสามัคคี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งทุกโครงการล้วนชุบชีวิตราษฎรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้อย่างยั่งยืนมาถึงปัจจุบัน

สำหรับอ่างเก็บน้ำลำพะยัง ที่เปรียบเสมือนโลหิตหล่อเลี้ยงชีวิตชาว อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ได้เริ่มก่อสร้างในปี 2537 ขณะที่อุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ เริ่มก่อสร้างในปี 2546 แล้วเสร็จในปี 2549 โดยมีการเจาะอุโมงค์ผันน้ำลอดใต้เขาภูบักดี แล้วทำท่อเหล็กลอดใต้อุโมงค์ ขนาดกว้าง 3 เมตร สูง 3 เมตร ยาว 740 เมตร ส่งน้ำจากอ่างห้วยไผ่ จ.มุกดาหาร เข้ามายังพื้นที่ อ.เขาวง มีการทำถังพักน้ำ ทำระบบท่อชลประทาน ที่ยังประโยชน์ครอบคลุมพื้นที่มากถึงประมาณ 12,000 ไร่ ทำให้ผลผลิตทางการปลูกข้าวของชาวนาเพิ่มมากขึ้นถึง 2-3 เท่า นับเป็นความสำเร็จจากอุโมงค์ผันน้ำหนึ่งเดียวในเมืองไทยใต้พระบารมี ที่มาจากพระอัจฉริยะภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้านบริหารจัดการน้ำ สอดรับกับคำว่า “ลำพะยังภูมิพัฒน์” ซึ่งหมายถึง อุโมงค์ผันน้ำที่นำความเจริญมาสู่แผ่นดินลุ่มน้ำลำพะยัง

น.ส.วิภาวี บุญเรือง นายกเทศมนตรีตำบลกุดสิม อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นชาวบ้านจะทำนาได้ปีละครั้ง โดยอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก เมื่อถึงฤดูแล้งจะไม่สามารถทำอะไรได้เพราะไม่มีน้ำ กระทั่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้มาพัฒนาพื้นที่ อ.เขาวง ด้วยโครงการพระราชดำริต่างๆ ทุกวันนี้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น มีน้ำ ดินดี และใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้ เพื่อพัฒนา ต่อยอดโครงการพระราชดำริต่าง ทางเทศบาลตำบลกุดสิม พร้อมด้วยส่วนราชการและภาคประชาชน ยังได้จัดกิจกรรมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ภายใต้โครงการขยายผลเกษตรทฤษฎีใหม่ อันเนื่องมาจากพระราดำริอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดจัดโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน เพื่อเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวิถีชาติพันธุ์อีกด้วย
“จากที่เคยเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง มีเทือกเขาภูพานล้อมรอบ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวภูไท ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา โดยเฉพาะเป็นแหล่งผลิตข้าวเหนียวเขาวง สินค้า GI ที่ขึ้นชื่อ นอกจากนี้ยังมีอาชีพทำไร่ เลี้ยงสัตว์ หัตถกรรม พลิกผืนดินที่แห้งแล้งประสบภัยแล้ง เป็นแหล่งสร้างงาน สร้างอาชีพ ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยพระราชทานโครงการอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ดังกล่าว ซึ่งเป็นอีก “ศาสตร์พระราชา” ที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันสืบสาน ต่อยอด ขยายผลใช้แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำได้ผลสำเร็จ ให้พสกนิกรชาว อ.เขาวง ได้ประกอบอาชีพ แก้ไขปัญหาการว่างงานและสร้างอาชีพอย่างยั่งยืนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังได้น้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ครอบครัวและชุมชน รวมทั้งสร้างความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ อ.เขาวง ให้เป็นต้นแบบการพัฒนาตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ที่สมบูรณ์ต่อไป” น.ส.วิภาวีกล่าว

ขณะที่นางพริ้มพร วรรณโคตร อายุ 70 ปี บ้านเลขที่ 176 ม.14 บ้านเเสนสุข ต.คุ้มเก่า อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า มีที่นาอยู่ 9 ไร่ เป็นดินทราย ผลผลิตต่ำ ปีไหนฝนดีได้ข้าวไร่ละประมาณ 200 ก.ก. แต่หากประสบฝนทิ้งช่วงได้ข้าวน้อย แทบจะไม่พอดิน หลังจากทำนาก็ว่างงาน บางคนหารับจ้างทั่วไป และอพยพไปขายแรงงานต่างถิ่น หลังจากมีโครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำพะยังตอนบน และโครงการอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่เสมือนเป็นน้ำชุบชีวิตใหม่ และหล่อเลี้ยงชีวิตตลอดปี ทำให้มีน้ำเพียงต่อการทำนา ได้ผลผลิตข้าวสูงขึ้นถึงไร่ 400-500 ก.ก.

“นอกจากนี้ยังมีน้ำเหลือสำหรับปลูกพืชดูแล้ง หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว เช่น ข้าวโพด แตง บวบ มะเขือเทศและพืชผักสวนครัวด้วย ทำให้ตอนนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ในฐานะราษฎรที่ได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งทุกวันนี้มีอาชีพ มีรายได้ มีกิน มีใช้ เลี้ยงลูกหลาน ดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง ก็ด้วยพระบารมีของพระองค์ท่าน ก็จะบอกต่อลูกหลาน เยาวชน ปฏิบัติตนตามรอยพระยุคลบาทตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะเป็นแนวทางให้อยู่รอด อยู่ได้ ถึงแม้จะประสบปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 แต่ตัวเรา ครอบครัวเรา เราก็สามารถอยู่รอด อยู่ได้ อย่างปลอดภัย ขอจดจำและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระองค์ท่านสืบไป เพราะพระองค์ท่านจะยังสถิตในดวงใจพสกนิกรไทยตราบชั่วนิรันดร์
บรรยายภาพ