
ลุงและป้า นำรถยนต์กระบะทำเป็นรถพุ่งพวงใหญ่ขายอยู่ที่กรุงเทพมานาน เผยเจอช่วงโควิด-19 ต้องกลับบ้านเกิดที่สุรินทร์ ก็มาเร่ขายอาหารสดตามหมู่บ้านต่างๆ ได้มากขึ้นวันละกว่า 1,000 บาท หลังจากประกาศโควิด-19 เป็นโรคท้องถิ่น รายได้จากวันละพันกว่าบาท
วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวพบรถยนต์กระบะตอนเดียวได้บรรทุกอาหาน ผัก ผลไม้ หอม และกระเทียมฯลฯ ได้เข้ามาเร่ขายตามหมู่บ้าน และหน่วยงานราชการ ทราบชื่อคนขับรถยนต์กระบะชื่อนายสำเริง เยาวลักษณ์(คนขับรถพุ่งพวงใหญ่) อายุ 69 ปี และนางสาเยียน เยาวลักษณ์(ภรรยา) อายุ 71 ปีมีบ้านพักอาศัยเลขที่ 29 หมู่ 2 ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ขับรถยนต์กระบะพุ่งพวงใหญ่เร่ขายอาหาร ผัก ผลไม้ ของแห้งไว้ปรุงอาหารหลากหลายชนิด แพกถุงเป็นพ่วงใส่รถยนต์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “รถพุ่มพวงใหญ่” ออกเร่ขายตามหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งช่วงนี้ดูเหมือนจะเป็นโอกาสทองของเขาที่จะขายอาหารแพ็คเพิ่มมากขึ้น
นางสาเยียน เยาวลักษณ์(ภรรยา) เล่าว่า ตนจะไปหาซื้อวัตถุดิบประเภทอาหารแห้ว ผัก ผลไม้สดในตลาดสดในตัวเมืองสุรินทร์มาแพ็คใส่ถุงหูหิ้วพลาสติกสองคนลุงกับป้าขับรถยนต์กระบะออกเร่ขายตามหมู่บ้านต่างๆ ในหมู่บ้าน ตำบลเขตพื้นที่สุรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างไกลตัวเมือง เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว มีรายได้ประมาณวันละ 500 – 1,000 บาท/วัน มีลูกค้าขาประจำและขาจรแล้วแต่จังหวะ ซึ่งช่วงเที่ยงคืนต้องตื่นนอนออกไปตลาด เลือกซื้อผักซื้ออาหารแห้งอะไรต่อมิอะไรที่คิดว่าสามารถทำเป็นอาหารได้ หลังจากนั้นก็กลับมานั่งแพ็คใส่ถุง ถึงรุ่งเช้าก็ตระเวนขายให้ลูกค้าตามหมู่บ้านต่างๆ ขายถุงละ 20-50 บาท” ทำให้มีรายได้ในช่วงนี้วันละ 1,000 บาท แต่ตนจะไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาแน่นอน เพราะเห็นอกเห็นใจคนหาเช้ากินค่ำด้วยกัน ชาวบ้านส่วนใหญ่ฐานะยากจน นางสาเยียน เยาวลักษณ์(ภรรยา) กล่าวว่า ตนทำอาชีพรถพุ่มพวงมาแล้ว กว่า 30ปี เคยทำขายอยู่ที่ กรุงเทพฯ แต่พอช่วงโควิคตนและสามีจึงกลับบ้านเกิดที่สุรินทร์ แรกๆขายดีกำไรงาม แต่มาช่วงนี้ขายยาก กำไรน้อย เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ลงทุนวันละ 6,000 บาท บางวันขายแทบไม่เหลืออะไร ค่าน้ำมันรถตกสันละ 500-600 บาทแล้ว แต่ตนและสามีก็ยังคงต้องยึดอาชีพนี้ต่อไป เพราะลูกๆของตนนัั้นพิการไม่ครบ 32 ตนและสามีจึงต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว แม้จะลำบากตนและสามีก็ยังคงมีความสุขกับอาชีพของตน แม้จะแทบไม่ได้กำไรอะไรมากมายนัก