
วันที่ 13 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เวลา 17.00 น. ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองนครพนม สนธิกำลังกับชุดปราบปรามยาเสพติด ตชด.236 บุกจับกุม 2 ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายสำคัญ ขณะตระเวนส่งยาบ้า โดยซุกซ่อนของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 8,000 เม็ด ไว้ในกระสอบข้าวสารอย่างแนบเนียน กลางทุ่งนาบ้านหนองปลาดุก!ภายใต้การอำนวยการเข้มงวดของ นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอเมืองนครพนม และการนำทีมโดย นายหมวดโทจักรพล เที่ยงภักดิ์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง เจ้าหน้าที่ได้วางแผนจับกุมอย่างรัดกุม หลังได้รับแจ้งจากสายลับถึงพฤติการณ์ของ นายสุบิน (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี และ นายอ่อนศรี (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี สองผู้ต้องหาที่ลักลอบจำหน่ายยาบ้าในพื้นที่ตำบลบ้านผึ้งและใกล้เคียง โดยใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นโซนิคสีเทาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะในการส่งยาบ้ากระทั่งเวลาประมาณ 16.50 น. ขณะเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังกระท่อมนาตามที่สายลับแจ้งเบาะแส พบผู้ต้องหาทั้งสองคนมีท่าทางพิรุธ ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ผู้ต้องหาพยายามหลบหนีเข้าไปในทุ่งนา แต่สุดท้ายก็ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตามรวบตัวไว้ได้ในที่สุด
จากการตรวจค้น พบของกลางเป็นยาบ้าเม็ดสีแดง จำนวน 7,920 เม็ด และยาบ้าเม็ดสีเขียว จำนวน 80 เม็ด รวมทั้งสิ้น 8,000 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกอย่างดี ซุกซ่อนอย่างมิดชิดภายในกระสอบข้าวสารที่ห้อยอยู่บริเวณแฮนด์รถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวน นายสุบินให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของตนจริง โดยสั่งซื้อมาจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Noknoy Duangsombud” และเตรียมนำไปจำหน่ายต่อในราคาถุงละ 3,700 บาท ส่วนนายอ่อนศรีให้การว่าได้รับการชักชวนจากนายสุบินให้นำยาบ้าไปซุกซ่อนที่กระท่อมนา โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นยาบ้าจำนวน 10 เม็ด เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนทั่วไป กระทบต่อความมั่นคงของรัฐโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” แก่ผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมแจ้งข้อหาเพิ่มเติม“เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะมีสารเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย”
ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งไปยังกองร้อย อส.อ.เมืองนครพนม ที่ 3 เพื่อทำการสอบสวนขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นับเป็นอีกหนึ่งผลงานสำคัญของฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครพนมอย่างต่อเนื่อง