
ภาพวงจรปิดจับภาพของสาววัย 33 ปี ซึ่งได้เข้าไปขโมยรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 110 I สีน้ำเงิน ทะเบียน 2กก 6835 สุรินทร์ ของเจ้าหน้าที่พยาบาลขอโรงพยาบาลสุรินทร์ ที่จอดเอาไว้ โดยลืมเอากุญแจออกจากตัวรถ ก่อนขับรถหลบหนีออกไปที่บ้านใน ต.แสลงพันธ์ อ.เมืองสุรินทร์

ซึ่งผู้เสียหายได้นำรถมาจอดเข้าเวรเมื่อวันที่ 15 พค. ที่ผ่านมา แล้วออกเวรเมื่อวันที่ 17 พค. เดินมาที่จอดรถแต่ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ของตนเองได้หายไป จึงเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ก่อนให้ชุดสืบสวน ติดตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิด ตั้งแต่วันที่มาจอด กระทั่งพบบุคคลต้องสงสัยเป็นหญิง ขับรถจักรยานยนต์สกูปปี้ สีดำเข้ามาด้านในโรงพยาบาล ก่อนมีท่าทีพิรุธจากการแต่งกายและจัดเตรียมหมวกกันน็อคเอาไว้พร้อม ก่อนสวมหมวกแล้วเดินไปยังรถเป้าหมาย ขโมยรถจักรยานยนต์สีนำเงินของผู้เสียหายออกไปจจากโรงพยาบาลทันที

โดยชุดสืบสวนได้หาข่าวจนทราบว่าหญิงวัย 33 ปี ได้มาสมัครทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กในร้านอาหารของโรงพยาบาล ทำหน้าที่ช่วยจัดเตรียมส่วนประกอบอาหาร โดยวันเกิดเหตุ ตนเองได้มาที่โรงพยายาบาล กับแฟนหนุ่ม แล้วไปจอดรถ บังเอิญเห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเสียบกุญแจคาไว้ จึงอาศัยทีเผลอ ถอดกุญแจออก เก็บใส่กระเป๋า ก่อนไปทำงานตามปกติ กระทั่งช่วงเย็น ได้ยืมรถเพื่อนขับมาดูราดลาว ว่ารถที่ตนเองขโมยกุญแจยังจอดอยู่ที่เดิมหรือไม่ กระทั่งช่วงค่ำเวา 19.06 น.ของวันที่ 16 พค. ได้เตรียมเข้ามาเอารถเป้าหมาย พร้อมด้วยหมวกกันน็อคที่เตรียมมาด้วย ทำทีเดินไปยังรถ ก่อนเสียบกุญแจสตาร์ทเครื่องออกมาอย่างง่ายดาย ก่อนขับรถไปยังบ้านตนเอง พร้อมซุกเอารถไว้ในบ้านด้วย

เจ้าหน้าที่แกะรอยจากรถจักรยานยนต์สกูปปี้สีดำ จึงทราบว่าเป็นของพนักงานคนหนึ่งของ ห้างแมคโครสุรินทร์ จึงติดตามตรวจสอบ จนพบว่า รถคันดังกล่าว ในช่วงวันเกิดเหตุ มีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเคยทำงานที่นี่ได้มายืมไปซื้อของเป็นหญิงวัย 33 ปี ประจวบเหมาะกับภาพที่ จนท.เก็บไว้ได้จากกล้องวงจรปิด จึงติดตามพบว่าพักอาศัยอยู่บ้านอาโพน ต.แสลงพันธ์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงนำกำลังชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบ บ้านดังกล่าวจึงพบ อยู่ที่บ้าน จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น จนพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 110i สีน้ำเงิน จอดอยู่ในห้อง แถมมีการถอดทะเบียนรถซุกซ่อนเอาไว้บนตู้อีก จึงจำนนด้วยหลักฐาน จากภาพที่ จนท.ชุด.สืบสวนแสดงให้ดู
จึงนำตัวมาสอบสวนขยายผลที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ โดยมี พ.ต.อ.เอกพงษ์ พลมณี ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ สอบปากคำจนรับสารภาพทราบว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ก่อนนำตัวไปบันทึกจับกุมทำประวัติแจ้งข้อหา ข้อหาลักทรัพย์ในยามเวลากลางคืน นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป