
วิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัย มหามกุฎราชวิทยาลัย (มมร.กาฬสินธุ์) เปิดอบรมครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน พร้อมนำ AI เสริมทักษะการสื่อสารพระพุทธศาสนาในยุคดิจิทัล ชูนำหลักธรรมคุณธรรมจริยธรรมปลูกฝังเยาวชนของชาติในสถานศึกษา





ที่ห้องประชุมพระราชธรรมานุวัตร (อ่อน จักกะธัมโม/ภูกิ่งเงิน) ชั้น 3 อาคารพระเทพวิมลญาณ (ถาวร จิตตะถาวโร/วงศ์มาลัย) วิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ (มมร.กาฬสินธุ์) มหาวิทยาลัย มหามกุฎราชวิทยาลัย พระพุทธิวชิรเมธี, ผศ.ดร. รักษาการแทนผู้อำนวยการวิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดการอบรม โครงการอบรมพัฒนาศักยภาพพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ประจำปี 2568 มีพระครูวรจิตตานุรักษ์,ดร. หัวหน้าสำนักงานวิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ พระครูสุนทรวินัยรส,ดร. หัวหน้าฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ พระฟูตระกูล หลินภู หัวหน้าฝ่ายบริหาร วิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษา มมร.กาฬสินธุ์ คณะครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนทั้งในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ สกลนครและนครพนม ร่วมเปิดกิจกรรมการอบรม บรรยากาศมีความเข้มข้นทั้งด้านวิชาการ เสริมทักษะ



















ทั้งนี้ ได้รับความเมตตาจาก พระวัฒนวชิรเมธี,ดร. รองอธิการบดี ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ, รก. บรรยายในหัวข้อเรื่อง “การเผยแผ่ธรรมในโลกดิจิทัล : โอกาสหรือความเสี่ยง” พระครูสิทธิวราคม,ดร. รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) บรรยายในเรื่อง “การสอนศีลธรรมยุคใหม่ : ความท้าทายและโอกาส” ดร.พรทิวา ชนะโยธา หัวหน้าฝ่ายจัดการศึกษา มมร.วิทยาเขตร้อยเอ็ด บรรยายเรื่อง “การสื่อสารพระพุทธศาสนายุคดิจิทัล : AI” บรรยากาศมีความเข้มข้นทั้งด้านวิชาการ เสริมทักษะมีการให้คำแนะนำแก่คณะครูพระฯ เพื่อยกระดับการสอนด้วยการนำนวัตกรรมสมัย เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ของเยาวชนเสริมนิทานธรรมะโดยอ้างอิงจากพระไตรปิฎกเป็นต้น
พระพุทธิวชิรเมธี, ผศ.ดร. รักษาการแทนผู้อำนวยการวิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของโครงการครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนเพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพเพิ่มระดับทักษะ อบรมเทคนิค สร้างการสื่อสาร ยกระดับพัฒนาสมรรถนะทางปัญญาประดิษฐ์อย่างมืออาชีพ สิ่งสำคัญหลังจากผ่านการอบรมแล้วนั้น จะมีการลงพื้นที่ติดตามและประเมินในการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องในการสอนวิชาพระพุทธศาสนาในแก่พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ถือได้ว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้การนับถือมาช้านานหลายศตวรรษและเป็นรากฐานสำคัญ ทางด้านจารีตประเพณีศิลปวัฒนธรรมของคนไทย หล่อหลอมในทุกมิติอยู่ใกล้ชิดในวิถีชีวิต แต่เดิมผูกพันอยู่กับพระพุทธศาสนาและวัดได้กลายเป็นฟันเฟืองที่สำคัญของชุมชน เป็นศูนย์กลางแห่งกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน เป็นแหล่งการศึกษาของประชาชนทุกระดับ ทำหน้าที่เป็นสถาบันหลักในการฝึกอบรมพระสงฆ์ที่สืบต่อพระพุทธศาสนาและพลเมืองที่จะรับผิดชอบสังคมสืบไป
พระพุทธิวชิรเมธี, ผศ.ดร. กล่าวเพิมเติมว่า พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน มีฐานะเป็นครูอาจารย์ของเยาวชนและประชาชนทั่วไป หลักธรรม คำสอนและวัฒนธรรมที่สืบเนื่องมาจากพระพุทธศาสนา ได้หล่อหลอมกล่อมเกลาจิตใจประชาชน คนไทย ให้มีศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรมและค่านิยม ตามแบบอย่างของพุทธศาสนิกชน อันเป็นปัจจัยที่ทำให้สังคมไทย มีความร่มเย็นเป็นสุข มีเอกลักษณ์ของตนเอง ประชาชนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง มีความปรองดองสามัคคี เป็นปึกแผ่นมั่นคงตามสมควรแก่ปัจจัยตลอดมา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการบรรยายสุดท้ายก่อนปิดการอบรมฯ พระพุทธิวชิรเมธี, ผศ.ดร.ได้บรรยายเพิ่มเติมถึงโครงการการยกฐานะวิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ เป็นวิทยาเขตกาฬสินธุ์เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในทุกมิติมีสถานที่ที่เพียงพอสามารถตอบโจทย์ในระบบการศึกษาในชั้นอุดมศึกษาที่อยู่ในท้องถิ่นโดยชูคุณธรรมเสริมคุณธรรมจริยธรรมให้กับนักเรียนนักศึกษาให้เป็นผู้มีคุณภาพสามารถใช้หลักธรรรมนำชีวิตเพื่อสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติ ต่อไป