
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 มิถุนายน ที่ห้องยามดี เอ โรงแรมเวลาดี เขตเทศบาลนครอุดรธานี นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิ่น รอง ผวจ.จังหวัดอุดรธานี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจธุรกิจภายใต้แนวคิดธุรกิจสีเขียว เพื่ออบรมให้ความรู้ และสร้างทักษะในการดาเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ให้แก่ SME”ภายใต้โครงการขับเคลื่อนให้ MSME ปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ตอบสนองต่อมาตรฐาน/การกีดกันทางการค้า ประจำปี 2568


ซึ่งจัดโดย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ขึ้นในระหว่างวันที่ 5 – 6 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเวลาดี โดยมี รศ. ดร. สิงหะ ฉวีสุข คณบดีคณะบริหารธุรกิจสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) นายพงษ์ศักดิ์ ภูนิลวาลย์ ผอ.ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ SMEs สสว. นายกองโท พิสิษฏ์ พิพัฒน์วิไลกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหาร สสว., ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ – เอกชน จังหวัดอุดรธานี, หนองบัวลำภู และผู้ประกอบการ SME จากอุดรธานี หนองบัวลำภู และสกลนคร รอให้การต้อนรับ
รศ.ดร.สิงหะฯ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ ของโครงการฯ นี้ว่า ปัจจุบัน กระแสการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การค้า และสิ่งแวดล้อม มีผลกระทบโดยตรงต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME ที่ต้องปรับตัว ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและข้อกำหนดใหม่ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนซึ่งองค์การสหประชาชาติได้กำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน อีกทั้งมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น เศรษฐกิจสีเขียว และ การลดคาร์บอน ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการดาเนินธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ


โครงการขับเคลื่อนให้ MSME ปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ตอบสนองต่อมาตรฐาน, การกีดกันทางการค้า จึงดำเนินการขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ SME สามารถปรับตัวและพัฒนาแนวทางดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งตอบสนองต่อข้อกำหนด ทางการค้าใหม่ๆ ที่อาจเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับภาคธุรกิจไทย
โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือ 1.ให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานเศรษฐกิจสีเขียว และข้อกำหนดทางการค้าที่สำคัญสำหรับ MSME 2. ยกระดับความสามารถของ MSME เพื่อให้สามารถปรับตัวและกำหนด กลยุทธ์ที่สอดรับกับแนวโน้มการค้าระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน 3.สร้างเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่าง MSME กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


ในการอบรมสัมมนาฯครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ ในด้านนโยบายสิ่งแวดล้อม ผลกระทบทางเศรษฐกิจ และแนวทางการปรับตัวของ ภาคธุรกิจ ภายใต้บริบทของ Green Economy และ Carbon Footprint ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การอบรมครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ MSME ในการพัฒนาความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายกองโท พิสิษฏ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วย สสว. ได้ร่วมกับ สจล. ดำเนินการโครงการนี้ มุ่งเน้นส่งเสริมผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมุ่งเน้นดำเนินการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการจำนวน 2 วัน เกี่ยวกับการทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร และคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานการค้า และแนวทางในการปรับตัวที่ให้เกิดสมดุล ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมช่วงเปลี่ยนผ่านให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ รวมทั้งการประเมินศักยภาพธุรกิจผ่าน Green SME Index เพื่อวิเคราะห์ความพร้อมและโอกาสทางธุรกิจ และมีที่ปรึกษาธุรกิจเชิงลึก ณ สถานประกอบการ เพื่อปรับแผนธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดต้นทุน และเพิ่มรายได้


นอกจากนี้ มีการพัฒนา Sandbox Program สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการปรับเปลี่ยนธุรกิจ สู่ธุรกิจสีเขียว และเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจสีเขียวและโอกาสทางการค้าในตลาดโลกเพื่อปรับธุรกิจให้พร้อมกับมาตรฐานใหม่ เพื่อความยั่งยืนและแข่งขันได้ในตลาดโลก
นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน รอง ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่าในนามของจังหวัดอุดรธานี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ สสว. ร่วมกับ สจล. ได้เลือกจังหวัดอุดรธานี ในการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “ตามแนวทางการดาเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดธุรกิจสีเขียว เพื่ออบรมให้ความรู้ และสร้างทักษะในการดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ให้แก่ SME”ภายใต้โครงการขับเคลื่อนให้ MSME ปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ตอบสนองต่อมาตรฐาน/การกีดกันทางการค้า ประจำปี 2568 ในวันนี้ จากการกล่าวรายงานของคณบดี ฯ และท่านกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทำให้ทราบว่าโครงการนี้ เป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างศักยภาพ ของผู้ประกอบการ SME ในการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก และได้ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 แล้ว


การพัฒนาผู้ประกอบการ SME ให้สามารถดำเนินธุรกิจตามแนวทางที่ยั่งยืนเป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง จังหวัดอุดรธานี ได้เห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมผู้ประกอบการในพื้นที่ให้มีศักยภาพในการแข่งขันทางการค้า ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ปัจจุบันธุรกิจ SME ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของประเทศ และจากที่สหประชาชาติได้ประกาศ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ทำให้ผู้ประกอบการเผชิญความท้าทายที่สำคัญคือการปรับตัวให้สอดรับกับมาตรฐานสากล และข้อกำหนดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากมาตรการกีดกันทางธุรกิจการค้าของแต่ละประเทศ โครงการนี้จะช่วยผู้ประกอบการ SME ปรับตัว เตรียมความพร้อมการ ในการแข่งขันทางการค้าทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ขอชื่นชมและขอบคุณ สสว. และ สจล. ที่ได้จัดทำโครงการขับเคลื่อนให้ MSME ปรับเปลี่ยนธุรกิจ ฯ นี้ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ SME ในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและคำนึงถึงความยั่งยืน โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถประเมินและปรับปรุงองค์กรตามมาตรฐานสากลเท่านั้น แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการในการรับมือกับความท้าทายและโอกาส ทางธุรกิจในอนาคต ในเรื่องการทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร และคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์สีเขียว ซึ่งผู้ประกอบการจังหวัดอุดรธานี จะได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานการค้า และแนวทางในการปรับตัวที่ให้เกิดสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมช่วงเปลี่ยนผ่านให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ของท่านเอง แต่ยังเป็นการมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับสังคมและประเทศชาติอีกด้วย
ในนามของจังหวัดอุดรธานี ขอขอบคุณสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังอีกครั้ง ที่ได้จัดโครงการดีๆ เช่นนี้ และขออวยพรให้การอบรมในวันนี้ ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ขอให้ผู้ประกอบการ SME ทุกท่านได้รับประโยชน์และสามารถนำความรู้ไปใช้พัฒนาธุรกิจของท่านให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ต่อไป