
คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร จัดสัมมนา เรื่อง ชาวบ้านมั่นคงทางการเงิน เรียนรู้ ออมเงิน สร้างเครือข่าย เดินหน้าเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการมีความรู้พื้นฐานด้านการเงินเกี่ยวกับการออมเงิน การบริหารรายรับรายจ่าย และสามารถจัดการเงินในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ



วันที่ 17 มิถุนายน 2568 ที่หอประชุม อบต.ยอดแกง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 กรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง “ชาวบ้านมั่นคงทางการเงิน : เรียนรู้ ออมเงิน สร้างเครือข่าย” ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร



โดยมีนางสาวแอนศิริ วิลัยกนก กรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการเงิน การคลังฯ พร้อมด้วยนายยุทธนา เกียรติดำเนินงาม ผู้เชี่ยวชาญฯ นายเจริญ จันดอน สจ.อ.เมืองกาฬสินธุ์ เขต 2 นายพงษ์ พิมพะนิตย์ สจ.อ.เมืองกาฬสินธุ์ เขต 3 เจ้าหน้าที่ ธกส. ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพียง



นายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 กรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการเงิน การคลังฯ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการการเงิน การคลังฯ ได้จัดสัมมนาเรื่อง ชาวบ้านมั่นคง ทางการเงิน เรียนรู้ ออมเงิน สร้างเครือข่ายขึ้นในครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และให้เห็นถึงความสำคัญของการมีความรู้พื้นฐานด้านการเงินเกี่ยวกับการออมเงิน การบริหารรายรับรายจ่าย และสามารถจัดการเงินในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการสร้างเครือข่ายชุมชน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และให้ความช่วยเหลือด้านการเงินร่วมกันอย่างเหมาะสมต่อไป



อย่างไรก็ตามกิจกรรมครั้งนี้ยังนับได้ว่าเป็นอีกบทบาทหนึ่งของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ได้ทำงานเชิงรุก เพื่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน สังคม และประเทศชาติ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกด้วย



ด้านนางสาวแอนศิริ วิลัยกนก กรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการเงิน การคลังฯ กล่าวว่า สำหรับการการสัมมนาครั้งนี้ผู้เข้าอบรมนอกจากจะมีความรู้ ความเข้าใจในพื้นฐาน ด้านการเงิน เกี่ยวกับการออมเงิน การบริหารรายรับรายจ่าย และสามารถจัดการเงิน ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสมแล้ว ยังจะช่วยให้ประชาชนและชุมชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ อย่างเป็นธรรม ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการสร้างอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย