
วันที่ 21มิ.ย.68 เวลา 08.30 น.ณ วัดสว่างสุวรรณาราม ตำบลหนองแสง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 มีราชสิริวัฒน์ เจ้าคณะจังหวัด นครพนม เจ้าอาวาสวัดสว่างสุวรรณาราม ประธานฝ่ายสงฆ์ ว่าที่ รต.รวยรุ่ง ใครบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมแขกผู้มีเกียรติ ร่วมพิธี



แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ประกอบพิธีเปิดผ้าคลุม พระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร สมัยพระชัยวรมันบริเวณด้านหน้าอุโบสถฯและแห่รอบอุโบสถ 3 รอบ อัญเชิญพระพุทธรูปป่างสะดุ้งมาร สมัยพระชัยวรมันขึ้นประดิษฐานภายในศาลาประชุมสงฆ์ (เจ้าหน้าที่โยงด้ายสายสิญจน์) เพื่อประกอบพิธีถวายพระพุทธรูป ฯถวายมาลัยและกราบสักการะพระประธาน ภายในอุโบสถ และสักการะพระธาตุแสงนคร
แม่ทัพภาค 2 กล่าวว่า การจัดสร้าง “พระประธานสมัยพระชัยวรมัน” ปางสะดุ้งมาร เพื่อประดิษฐาน ณ วัดสว่างสุวรรณาราม ให้เป็นที่เคารพกราบไหว้ น้อมสักการะบูชา และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ประชาชนชาวนครพนมที่เข้าร่วมพิธีต่างแสดงความชื่นชมและให้กำลังใจแก่แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะ ที่ได้ให้ความสำคัญกับการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการส่งเสริมความมั่นคงทางจิตใจและวัฒนธรรมของชาติ



ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี พลโท บุญสิน พาดกลาง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนว่า “ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงในการนำมาซึ่งการใช้อาวุธซึ่งกันและกัน ยังไม่มีเหตุรุนแรงอะไร ก็เป็นปกติ หลังจากที่เราปรับกำลังที่ ช่องบกแล้วสถานการณ์ทั่วไปก็ปกติ แต่ว่ากำลังของทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังอยู่ปกติ ยังไม่มีการคุกคามที่นำไปสู่การปะทะกัน”



เมื่อถูกถามถึงกรณีที่ฝั่งกัมพูชายังคงอยู่ในเขตของตนเอง ไม่ได้มีการขยับถอยออกไป พลโท บุญสิน ยืนยันว่า “ไม่มีครับ ยังอยู่ในเขตใครเขตมัน” และเมื่อถามถึงความหนักใจต่อสถานการณ์ในอนาคต แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบอย่างหนักแน่นว่า “ไม่หนักใจครับ เราก็ต้องแก้ปัญหาไปตามสถานการณ์ ตามเหตุการณ์การเมืองบ้านเมือง รัฐบาลก็ต้องแก้ไปในระดับรัฐบาล ส่วนพื้นที่ก็พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตย หลักๆ เราก็พูดคุยกันกับกำลังทหารในพื้นที่ ของไทยและกัมพูชาก็พูดกันประจำ”
สำหรับความเสี่ยงที่จะถึงขั้นรุนแรง แม่ทัพภาคที่ 2 ชี้แจงว่า “ขึ้นอยู่กับนโยบายของทางรัฐบาล และของกัมพูชาด้วย” และเน้นย้ำว่าสถานการณ์ทางการเมืองของไทยที่ยังไม่นิ่งนั้น “คือไม่มีผลกับการปกป้องอธิปไตย ส่วนเรื่องการเมืองเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่ต้องแก้ไขส่วนของการเมืองไป ส่วนกองทัพมีหน้าที่รักษาอธิปไตย แยกกันปฏิบัติอยู่” โดยย้ำว่าการเมืองไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมาตรการตามแนวชายแดน ซึ่งกองทัพกำกับดูแลอยู่แล้ว


พลโท บุญสิน พาดกลาง ได้สร้างความมั่นใจในขีดความสามารถในการปกป้องอธิปไตยของชาติ “ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร” และกล่าวถึงกรณีตาเมือนควาย ซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่ที่มีการแจ้งเตือนและประสานกับกัมพูชาว่าไม่ควรให้เกิดขึ้นอีกว่า “ผมคิดว่า น่าเป็นการเมืองมากกว่า คงไม่ได้เกี่ยวข้องกับทหารตามแนวชายแดน เพราะกัมพูชา ถ้าเขาจะปฏิบัติเขาต้องฟังนโยบายสูงสุดของผู้นำเขาอยู่แล้ว