
ผลพวงจากเหตุพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยืดเยื้อมากว่า 1 เดือน จนนำไปสู่มาตรการปิดด่านพรมแดนเพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนแนวชายแดน นอกจากจะกระทบกับด้านการค้าขายแล้ว ผู้มีอาชีพขับขี่วิน จยย.พ่วงที่จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ร่วม 80 คัน ก็ต้องหยุดวิ่งทำให้ขาดรายได้ หลายคนยังต้องแบกรับภาระค่างวด วอนรัฐบาลเร่งเจรจาหาทางออก


วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ผลพวงจากเหตุพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน จนนำไปสู่การใช้มาตรการปิดด่านพรมแดนเพื่อปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดน ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบด้านการค้าขายแล้ว ผู้มีอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับจ้าง วินช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่มีอยู่ประมาณ 80 คัน ก็ต้องหยุดวิ่งโดยปริยาย ทำให้ขาดรายได้ที่จะนำไปจุนเจือครอบครัว จากช่วงที่เปิดจุดผ่อนปรนให้ค้าขายกันได้ตลอดสัปดาห์ ผู้มีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์พ่วงรับจ้างวินช่องสายตะกูดังกล่าว จะมีรายได้เฉลี่ยวันละ 300 – 400 บาท หากเป็นวันศุกร์ที่มีตลาดนัดด้วย ก็จะมีรายได้ถึงวันละ 700 – 800 บาท ถือเป็นรายได้ที่สามารถจุนเจือครอบครัวได้เป็นอย่างดี


โดยเฉพาะคนที่ไม่มีไร่นาหรือสวนยางเป็นของตัวเอง อาชีพวิน จยย.ถือเป็นรายได้หลักสำหรับเลี้ยงดูครอบครัว แต่บางคนมีสวนยาง ไร่มัน หรือนาข้าว ก็จะทำเป็นอาชีพเสริมก็มีรายได้เสริมเพิ่มอีกทางหนึ่ง แต่หลังจากปิดด่านรายได้เป็นศูนย์ หลายคนก็ต้องปรับตัวหันไปรับจ้างกรีดยาง ขนยางไปขาย ก่อสร้างบ้าง พอมีรายได้จุนเจือครอบครัว แต่ก็ไม่ได้มีการจ้างทุกวัน และกลุ่มที่เดือดร้อนมากที่สุดคือคนที่ยังต้องแบกรับภาระผ่อนชำระค่างวดรถจักรยานยนต์อยู่ ก็ต้องดิ้นรนหาเงินไปจ่ายค่างวดเพื่อไม่ให้ถูกยึด


นายสายทอง คำเพ็ง อายุ 66 ปี หนึ่งในผู้มีอาชีพขับวิน จยย.พ่วงที่ช่องสายตะกู บอกว่า หลังจากที่มีการปิดด่านก็ขาดรายได้ไปเลย ก็ต้องปรับตัวหันไปรับจ้างขนยางพาราไปขายบ้าง หรืองานรับจ้างอะไรที่พอทำได้ก็จะทำเพราะอาชีพมากแล้ว เพื่อให้มีรายได้มาจ่ายค่างวด จยย. ซึ่งราคารถ จยย. ที่ดาวน์มาขับวิน ช่องสายตะกูกว่า 6 หมื่นบาท ต่อพวงอีกประมาณ 2 หมื่นบาท ตอนนี้เหลือค่างวดอยู่กว่า 3 หมื่นบาท จ่าย ต้องส่งผ่อนชำระเดือนละ 2,200 บาท หากยังได้วิ่งวอนที่ช่องสายตะกูอยู่ก็ไม่มีปัญหา แต่หลังจากปิดด่านรายได้เป็นศูนย์ก็ต้องหารับจ้างอย่างอื่น หากไม่มีงานหรือเงินพอชำระก็ต้องขอจากลูก ซึ่งก็ไม่ได้อยากให้เป็นภาระของลูก
จึงอยากฝากถึงรัฐบาลให้เร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้เปิดด่านค้าขายกันได้เหมือนเดิม ก็จะได้มีอาชีพมีรายได้เลี้ยงครอบครัว ในฐานะคนไทยคนหนึ่งก็ไม่ได้อยากให้เสียดินแดน แต่หากการปิดด่านเป็นมาตรการที่จะปกป้องดินแดน ก็พร้อมจะปรับตัวหาอาชีพอื่นทำ และหากเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลดูแลเยียวยาคนที่ได้รับผลกระทบด้วย