
มหาสารคาม-ลูกชายหลอนยาเสพติด ใช้มีดทำครัวแทงพ่อจนเสียชีวิต เมื่อคืนที่ผ่านมา ล่าสุด จับได้แล้วลูกฆ่าพ่อตาย เหตุทะเลาะเรื่องขโมยข้าวสารไปขาย สารภาพอ้างว่าขายข้าวสารนำเงินไปซื้อยาเสพติด ยายเผย ให้ฆ่าตัดตอน เป็นภัยต่อสังคม

วันที่ 14 ก.ค.68 เวลา 10.30 น พ.ต.ต.คมสันต์ บุพตา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกแทง ที่บ้านหม้อ ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม ก่อนแจ้งรถกู้ชีพโรงพยาบาลมหาสารคาม และผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ โดยที่เกิดเหตุพบนายประวิทย์ อายุ 53 ปี ได้รับบาดเจ็บ ถูกมีดแทงที่บริเวณไหล่ซ้าย และใต้ราวนมขวา เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบถามญาติของผู้บาดเจ็บ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายวันชนะ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นลูกชายแท้ ๆ ของผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป สาเหตุเกิดจาก นายชัยชนะ ขโมยข้าวสารในบ้านไปขายเพื่อจะนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ แต่พ่อเห็นเสียก่อน ก็เลยรีบวิ่งไปดัก จนมีปากเสียงกัน ก่อนที่นายชัยชนะ จะนำมีดออกมาแทงนายประวิทย์ ผู้เป็นพ่อ จนล้มลงและหลบหนีไป
พ.ต.อ.ไกรทอง ชัยสิงห์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังลงพื้นที่เพื่อติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ กระทั่งตัวของผู้ก่อเหตุ ย้อนกลับมาที่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุม โดยผู้ก่อเหตุเข้าไปหลบในห้องน้ำ และอาบน้ำ ก่อนเจ้าหน้าที่จะบุกจู่โจมเข้าไปควบคุมตัว และนำตัวมาที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม

เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุจริง แต่ยังพูดจาวกไปวนมา ตรวจปัสสาวะก็พบว่า มีสารเสพติดในร่างกาย โดยเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันผลที่โรงพยาบาล จากการตรวจสอบพบข้อมูลว่า ผู้ต้องหามีคดีติดตัวถึง 4 คดี โดยเมื่อปี 2564 ถูกจับข้อหาทำร้ายบุพการี (แม่) และครอบครองยาเสพติด (ยาบ้า) ปี 2565 ข้อหา ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน ปี 2568 มีคดีเสพยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายบุพการี เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ด้านนายชัยชนะ ผู้ต้องหา เล่าว่า รู้ว่าตนเองแทงพ่อ มารู้ว่าพ่อตายตอนเช้า สาเหตุเพราะตนเองขโมยข้าวสารไปขาย เพื่อนำเงินไปซื้อยาบ้า พ่อมาเจอพอดี ก็ถูกด่าถูกตี เอามีดมากันพ่อออกไป ทำไปเพราะป้องกันตัว ผู้สื่อข่าวถามว่า พ่อเป็นพ่อแท้ ๆ หรือไม่ นายชัยชนะตอบว่า ไม่รู้ว่าเป็นพ่อจริงหรือป่าว แต่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตนอาจจะไม่ใช่ลูกพ่อก็ได้ พ่อจะด่าจะว่าทุกวัน ไม่เคยสู้ มีแต่เดินหนี เมื่อคืนนี้ไปไหนไม่ได้ ก็เลยต้องสู้ ตอนนี้สำนึกผิดแล้ว เสียใจ ต่อไปจากนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง สงสารแม่

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านที่เกิดเหตุ พบว่ามีการจัดเตรียมงานศพของนายประวิทย์ที่บ้านเลขที่ บ. 107 ม. 11 ต. เขวา อ.เมืองมหาสารคาม ได้เข้าสอบถาม นางแวว อายุ 66 ปี แม่ยายของผู้เสียชีวิต และเป็นยายของผู้ก่อเหตุ นางแวว เล่าว่า ตอนเกิดเหตุยายไม่เห็น เพราะอยู่บ้านหลังติดกัน พอรู้ว่าแทงกัน ก็เปิดประตูออกมา และก็ออกไปอยู่ข้างนอก พ่อลูกทะเลาะกันทุกวัน เพราะมันเสพยา ขอเงินทุกวัน เมื่อคืนนี้หลานชายก็ลักข้าวสารไปขาย ข้าวเปลือกไม่มีเหลือแล้ว มันขนไปขายหมดแล้ว ถ่านก็หมด เอาไปขายหมด เอาไว้ในบ้านไม่ได้ ต้องเอาไปไว้ที่อื่น ไม่งั้นมันก็เอาไปขายหมด ตอนนี้ไม่มีอะไรจะขายแล้ว มันก็เลยเอาข้าวสารไปขาย งานการไม่เคยทำ แบมือขอลูกเดียว ขอเงินแม่ไม่ได้ ก็มาขอยาย จนยายอยู่บ้านไม่ได้ ก็หนีไปอยู่บ้านญาติพี่น้อง มันก็ตามหา พอเจอก็ขอเงิน ไม่ให้ก็ไม่ได้ เพราะกลัวว่ามันจะมาฆ่ายาย ยายปั้นหม้อขาย เอาเงินจากตรงนี้เลี้ยงชีพ ไอ้นี่มันโหด มีแต่ขู่เอา คนที่มันฆ่าก็คือพ่อ ถ้าพ่อไม่ตายก็คือยาย มันหลอนยา ตำรวจจับไปแล้ว ยายอยากให้ฆ่าลูกเดียว ฆ่าให้ตาย ไม่ต้องเอาไว้ สังคมมันหลาย ฆ่าตัดตอนไปเลย คนไม่ดีไม่ต้องเอาไว้ เป็นภัยต่อสังคม ให้ตายตกไปตามกัน ไม่ต้องให้อยู่อีกต่อไป