
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ร.ต.อ.อิทธิพล มาลิกุล รอง สว.สอบสวน สภ.ย่อยน่าข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่แผงกั้นทางรถไฟหนองแด ต.กุดสระ อ.เมืองอุดรธานีว่า มีเหตุรถไฟเฉี่ยวชนคนเสียชีวิต
เหตุเกิดที่รางรถไฟ ระหว่างแผงกันทางรถไฟบ้านดอนหวาย-หนองแด ม.8 บ.ดอนหวาย ต.กุดสระ บริเวณจุดเกิดเหตุใกล้กับสถานที่ก่อสร้างมหกรรมพืชสวนโลก จ.อุดรธานี ห่างจากทางพาดรถไฟบ้านดอนหวายประมาณ 150 เมตร หลังได้รับแจ้งจึงรีบออกไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย ร.ต.ท.ชนะ ศรีมาฤทธิ์ รอง สวป.สภ.ย่อยนาข่า แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม แห่งอุดรธานี
ที่เกิดเหตุพบร่างของนายสุวิทย์ หงษ์สาคำ หรือวิทย์ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 98 ม.8 บ้านดอนหวาย ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่ถูกรถไฟเฉี่ยวชนอย่างแรง จนร่างกระเด็นตกลงข้างทางรถไฟ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าริม ห่างจากจุดที่ชนประมาณ 10 เมตร สภาพศพ คอหัก แขนและขาหัก กะโหลกศีรษะแตก ด้านหลังสพายกระเป๋าเป้สีดำ เสียชีวิตมาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
ตรวจสอบตามข้างทางรถใกล้กับศพพบอุปกรณ์ช็อตปลา ตาข่ายใส่ปลา ขวดน้ำดื่ม โคมไฟฉาย มีด 2 เล่ม ถังสีฟ้าสำหรับใส่ปลา ยาเส้น และรองเท้าแตะผู้ตาย ซึ่งอาสากู้ภัยได้เก็บมารวมกันไว้ข้างทางรถไฟ และห่างจากจุดที่พบศพที่ชายก่อสร้าง ชาว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ที่ถูกรถไฟทับร่างบนรางรถไฟเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ครั้งที่ผ่านมาประมาณ 300 เมตร จนทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวลือว่าเป็นอาถรรพ์ตัวตายตัวแทน

ในเวลาต่อมานายวิเชียร อาษานอก อายุ 74 ปี ชาวบ้านดอนหวาย มาดูศพผู้ตายพร้อมกับยืนยันว่า เป็นศพนายสุวิทย์ฯ เป็นคนบ้านดอนหวาย พ่อแม่ตายหมดแล้ว และไปสร้างเพิงพักอยู่ในหนองแด พอทางการมาก่อสร้างงานมหกรรมพืชสวนโลก นายสุวิทย์ฯ ก็ไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านนายจ้างที่บ้านดงเจริญ ต.กุดสระ โดยเพื่อเฝ้าบ้านให้นายจ้าง ที่เปิดอู่ซ่อมรถชื่ออู่ เอ็นดี บอดี้ เซอร์วิส ม.8 บ้านไก่เถื่อน ต.หมูม่น ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 ก.ม. เพราะเจ้าของอู่ซ่อมรถสงสารที่ผู้ตายไม่มีที่พักอาศัย จึงจ้างผู้ตายไปเฝ้าดูแลบ้านให้
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายพลังธรรม หมวดโพธิ์ทอง อายุ 35 ปี จนท.แผงกันทางรถไฟหนองแด ให้การว่าขณะที่ทำงานอยู่ที่ป้อมแผงกันทางรถไฟ มีคนงานที่เดินไปตามทางรถไฟไปทำงานก่อสร้างพืชสวนโลก ที่อยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร โดยใช้เส้นทางนี้เดินไปทำงานประจำ ได้ไปแจ้งตนว่าพบศพคนถูกรถไฟชนนอนอยู่ข้างทาง พร้อมอุปกรณ์ช็อตปลา จึงแจ้งให้นายสถานีรถไฟอุดรธานีรับทราบ แล้วจึงให้ตนมาตรวจสอบ ทราบจากคนขับขบวนรถด่วนที่ 25 ต้นทางจากสถานีหัวลำโพง กทม. ปลายทางสถานีหนองคาย และออกจากสถานีรถไฟอุดรธานีเวลา 06.00 น. มุ่งหน้าไปสถานีหนองคาย
“พอมาถึงจุดเกิดเหตุคนขับรถไฟแจ้งว่า ขณะขับผ่านจุดเกิดเหตุ เหมือนว่ารถไฟเฉี่ยวชนอะไรบางอย่าง คนขับรถไฟจึงแจ้งไปทางสถานีรถไฟอุดรธานี ให้ตนมาตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่พบ เพราะอยู่ห่างจากป้อมแผงกันทางรถไฟหนองแดประมาณ 1.5 ก.ม. ก่อนที่ตนจะมาตรวจสอบอีกครั้ง หลังรับแจ้งจากคนงานก่อสร้างพืชสวนโลก ก็มาพบศพผู้ตาย พร้อมอุปกรณ์ช็อตปลา และเอกสารประจำตัว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ”
ร.ต.อ.ชนะ ศรีมาฤทธิ์ เปิดเผยว่า เบื้องตันคาดว่าขณะผู้ตายยืนรอให้ขบวนรถไฟผ่านไป โดยยืนอยู่ใกล้รางรถไฟ ทำให้ผู้ตายอาจจะถูกลมดูดจากรถไฟขณะวิ่งผ่านด้วยความเร็ว ประกอบกับสถานที่เกิดเหตุแคบ อาจจะหลบไม่ทัน และอุปกรณ์หาปลาของผู้ตายมีเยอะ จึงถูกรถไฟดูดเข้าไปแล้วชนบริเวณศีรษะร่างกระเด็น ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนกว่า ก็มีชายถูกรถไฟชนเสียชีวิต ห่างกันประมาณ 300-500 เมตร ส่วนสถานที่เกิดเหตุเคยเป็นป่าช้าหรือไม่ก็ไม่รู้ เพราะตั้งแต่ตนมาทำงานที่ สภ.ย่อยนาข่า ศพนี้เป็นศพที่ 2 แล้ว จึงมอบศพให้อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมฯ นำไปเก็บรักษาไว้ที่นิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อให้เจ้าของอู่ซ่อมรถ ซึ่งเป็นนายจ้างและญาติ ติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป