
ป.ป.ส. ภาค 4 ผนึกกำลังจังหวัดนครพนม ร่วมหน่วยงานความมั่นคง ประชุมชี้แจงผู้ประกอบการขนส่งโลจิสติกส์ไทย–ลาว สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดชายแดน


วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนมนางสาวนุชนีย์ จันทนุช นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 พร้อมด้วย นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พล.ต.ต.ศักดิ์ชาย สาดมะเริง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ผู้แทนหน่วยหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 24 (นบ.ยส.24) ตลอดจนหน่วยงานด้านความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมชี้แจงแนวทางและมาตรการป้องกันยาเสพติดให้กับสถานประกอบการขนส่งพัสดุและโลจิสติกส์ (Logistics) ไทย–ลาว
การจัดประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและครบวงจร ภายใต้แผนปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” โดยเน้นการตัดวงจรการผลิต การจำหน่าย และการลักลอบลำเลียง รวมถึงการบำบัดฟื้นฟู โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม และมุกดาหาร ถือเป็นจุดเสี่ยงสำคัญที่ขบวนการค้ายาเสพติดมักใช้เป็นเส้นทางลำเลียงทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อนำยาเสพติดเข้าสู่ตอนในของประเทศ


ในการนี้ ป.ป.ส. ภาค 4 จึงได้ดำเนินการประชุมชี้แจงให้กับสถานประกอบการขนส่งในพื้นที่ อาทิ ไปรษณีย์จังหวัดนครพนม บริษัทนครพนมโลจิสติกส์กรุ๊ป SPX Express, Shopee, Flash, J&T Express และ KEX Express ตลอดจนหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ชายแดน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและเสริมสร้างความร่วมมือในการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เล็ดลอดผ่านช่องทางขนส่งต่าง ๆ ทั้งฝั่งไทยและ สปป.ลาว นอกจากนี้ ด่านศุลกากรนครพนมได้เน้นย้ำการบังคับใช้ พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญในการควบคุมการนำเข้า–ส่งออกสินค้า รวมถึงการลักลอบนำเข้าหรือขนสินค้าหนีภาษี โดยมีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง และได้เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาและส่งออกนอกราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วน
ภายหลังการประชุม คณะเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการขนส่งภายในจังหวัดนครพนม ที่ไปรษณีย์จังหวัดนครพนม ผลการตรวจสอบในครั้งนี้ ไม่พบ สิ่งผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด โดยใช้เครื่องเอ็กซเรย์วัตถุต้องสงสัยแบบพกพา ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับตรวจวัตถุอันตราย เช่น ยาเสพติด อาวุธ วัตถุระเบิด หรือสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ ผ่านการฉายรังสีเพื่อดูโครงสร้างภายใน


ทั้งนี้ เครื่องเอ็กซเรย์แบบพกพาดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักงาน ป.ป.ส. ผ่านกองทุนป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด มอบให้หน่วย นบ.ยส.24 และส่งต่อให้กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ใช้ในภารกิจเชิงรุก ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 4 ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ และสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน