
วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม รายงานสภาพอากาศภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีลมแรง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเมียนมา และแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบน มีฝนหรือฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่



สำหรับในพื้นที่ของจังหวัดนครพนม ระดับน้ำโขงบริเวณเขตเทศบาลเมืองนครพนม จากระดับวิกฤต 12.00 ม. วัดระดับอยู่ที่ 9.34 ม. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.35ม. ซึ่งต่ำกว่าระดับวิกฤต 2.66 ม.
นายเดช บำรุงหงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม กล่าวถึง สถานการณ์โดยรวมของจังหวัดนครพนมว่า นครพนมไม่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “วิภา”ไม่มากนักแต่เป็นผลกระทบสะสมมาตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย จากอิทธิพลของ “พายุสู่ติบ”เป็นต้นมา จึงทำให้มีปริมาณน้ำสะสมเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้ลำน้ำอูนเอ่อล้นตะลิ่ง ซึ่งขณะนี้ นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม สั่งการให้ สำนักงานชลประทาน ปภ.จังหวัดนครพนมและทางอำเภอ ลงพื้นที่ช่วยเหลือและเร่งผลักดันน้ำให้ระบายออกจากพื้นที่ท่วมขังโดยเร็วที่สุด



จากกรณีถนนสวรรค์ชายโขงเส้นทางเลียบลำน้ำโขงจากพื้นที่เทศบาลเมืองนครพนมไปทางทิศใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางตัดใหม่และเชื่อมต่อกับถนนเลียบชายโขงพื้นที่ความรับผิดชอบของ อบต.ท่าค้อ พบว่ามีปัญหาน้ำท่วมเส้นทางบริเวณดังกล่าวระยะทางราว 500เมตรเป็นประจำทุกปีนั้น ทางด้าน นายเดช ชี้แจงว่าในพื้นที่นั้นเป็นการออกแบบถนนด้วยความตั้งใจของ สำนักงานโยธาธิการจังหวัดนครพนม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการปรับลดระดับของถนนลงมา เพื่อให้ในช่วงฤดูน้ำหลากของน้ำโขงให้สามารถล้นข้ามถนนเข้าสู่พื้นที่ลุ่มทางด้านทิศใต้ เพื่อให้ปลาหรือสัตว์ว่ายเข้ามาได้โดยธรรมชาติ โดยที่จริงแล้วถนนเลียบชายโขงเส้นนี้เป็นเพียงเส้นทางรอง เพื่อต้องการให้เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน สามารถวิ่งปั่นจักรยานสัญจรไปมาในช่วงหน้าร้อนและหน้าหนาว ทั้งนี้สำหรับเส้นทางหลักในการสัญจรเป็นถนนสาย 22 เส้นทางนครพนม-ธาตุพนม และมีระดับสูงจากบริเวณนี้ราว 3.0 ม.
สำหรับบ้านของประชาชนที่ถูกน้ำท่วมตามที่เป็นข่าวออกไปตามโซเชียลนั้น อันที่จริงเป็นที่พักชั่วคราวของชาวบ้านที่ออกมาทำประมงในละแวก นั้นที่สร้างไว้เพื่อหลบแดดหลบฝนและไม่มีผู้พักอาศัยแต่อย่างใด จึงต้องการขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้เกิดการความตระหนก จนอาจจะทำให้เสียบรรยากาศของการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม