วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องพนมเมธี ชั้น 5 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม (เขตพื้นที่ศรีโคตรบูรณ์) มหาวิทยาลัยนครพนม ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ บริษัท วัฒนาเฮลธ์ จำกัด และ บริษัท อินโนแลบ จำกัด เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาบริการทางการแพทย์ และการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพดิจิทัลในนามหน่วยงานภายใต้มหาวิทยาลัยนครพนม
พิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ มี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมด้วย ดร.ณัฐธิรา ตั้งสืบกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วัฒนาเฮลธ์ จำกัด ในเครือโรงพยาบาลวัฒนา และนายโกสินทร์ ชัยชาญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโนแลบ จำกัด ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกัน
ความร่วมมือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการให้บริการทางการแพทย์ในนามของมหาวิทยาลัยให้ได้มาตรฐาน พร้อมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มข้อมูลสุขภาพดิจิทัล และสนับสนุนการเรียนการสอนและการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ แก่นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัยนครพนม
มหาวิทยาลัยนครพนม ในฐานะสถาบันการศึกษา ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีบทบาทในการสนับสนุนพื้นที่ อาคาร สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงทรัพยากรด้านวิชาการจากคณาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งส่งเสริมการประชาสัมพันธ์บริการทางการแพทย์ และร่วมวางแผนดำเนินงานกับภาคีทั้งสองเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพ
บทบาทและหน้าที่ บริษัท วัฒนาเฮลธ์ จำกัด รับผิดชอบในการปรับปรุงสถานที่ จัดหาอุปกรณ์การแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐาน พร้อมดำเนินงานด้านการขายและการตลาดเชิงรุก รวมถึงร่วมเสนอแนวทางปรับปรุงหลักสูตรและพัฒนาระบบบริการร่วมกับมหาวิทยาลัย
ด้าน บริษัท อินโนแลบ จำกัด มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัล เพื่อใช้ในการจัดการข้อมูลและบริการทางการแพทย์ภายในมหาวิทยาลัย ควบคู่ไปกับการดำเนินงานด้านการตลาดและสนับสนุนการพัฒนากำลังคนเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมสุขภาพอย่างครบวงจร
โดยบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มีระยะเวลาความร่วมมือ 10 ปี ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ถึง 23 กรกฎาคม 2578 โดยทั้งสามฝ่ายสามารถตกลงร่วมกันเพื่อขยายระยะเวลาออกไปได้ตามความเหมาะสม ถือเป็นการยกระดับบทบาทของมหาวิทยาลัยนครพนมในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ และเป็นการเชื่อมโยงการศึกษาเข้ากับภาคปฏิบัติอย่างแท้จริง เพื่อสร้างกำลังคนที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ภาคบริการสุขภาพในอนาคต
