
ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเผยไทยพร้อมร่วมหารือแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวและโลจิสติกส์บนเส้นทางรถไฟควมเร็วสูงจีน-ลาว-ไทยทั้งความสะดวก ปลอดภัยและเสริมศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวรองรับการเติบโตให้ยั่งยืน

เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 19 ส.ค.68 ที่โรงแรมพูนแมน ขอนแก่น จ.ขอนแก่น นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนางหลิว หง เหมย กงสุลใหญ่ สถานกงสุลสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดขอนแก่น นายดาวจินดา สีหาราด ผู้ว่าการรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาวและนายสุริยัน วิจิตรเลขการ ผู้อำนวยการสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ร่วมเปิดเวทีหารือและแลกเปลี่ยวแนวทางการพัฒนาในงานประชุมส่งเสริมโลจิสติกส์และการท่องเที่ยวตามแนวทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย โดยมีผู้แทนจากทุกภาคส่วนของทั้งสามประเทศเข้าร่วมหารือ


นางหลิว หง เหมย กงสุลใหญ่ สถานกงสุลสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีทองของความสัมพันธ์ไทย-จีนครบ 50 ปี จากการเดินทางทั่วอีสานพบว่าหลายพื้นที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและโลจิสติกส์ ภาคอีสานมีธรรมชาติที่สวยงาม มีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งรถไฟจีนลาวไทยจะเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อ เวทีนี้จึงเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ที่จะสร้างโอกาสการพัฒนาท่ามกลางความท้าทายรวมแนวคิดสู่แนวนโยบายของแต่ละประเทศ ซึ่งจีนจะเชื่อมต่อไปยังอีกกว่า 30 มณฑล


ด้าน นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ไทยพร้อมร่วมหารือแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวและโลจิสติกส์บนเส้นทางรถไฟควมเร็วสูงจีน-ลาว-ไทยทั้งความสะดวก ปลอดภัยและเสริมศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวรองรับการเติบโตให้ยั่งยืน ซึ่งนอกจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สอดรับกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการศุลการกรและตรวจคนเข้าเมืองให้เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนให้ทุกกลุ่มร่วมรับผิดชอบสู่ความยั่งยืน โดยไทยเตรียมพร้อมแผนพัฒนาระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว


โดยกิจกรรมในงานประกอบด้วย การเปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสานโดนใจที่ได้รับการโหวตจากประชาชนผ่านเพจเฟซบุ๊ค 10 แห่ง อาทิ พระมหาธาตุแก่นนคร จังหวัดขอนแก่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา วัดคำชะโนด จังหวัดอุดรธานี เชียงคาน จังหวัดเลย ภูทอก จังหวัดบึงกาฬ เป็นต้น


นอกจากนี้ยังมีการเปิดเวทีหารือย่อยใน 2 ด้านทั้งด้านการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวและพัฒนาระบบโลจิติกส์ การปาถกฐาพิเศษ การสัมมนาวิชาการโดยมีเป้าหมายร่วมกันที่จะสร้างโอกาสที่ท้าทาย นำไปสู่การพัฒนาและสร้างความยั่งยืนในทุกด้าน ในงานยังมีการจัดแสดงสินค้าที่น่าสนใจของแต่ละพื้นที่ของสามประเทศด้วย